Menu
เที่ยวแคนาดา

หมู่บ้านริมทะเลในแคนาดา เหมาะกับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์

แม้แคนาดาจะขึ้นชื่อเรื่องภูเขาหิมะ ทะเลสาบน้ำใส และป่าไม้กว้างใหญ่ แต่ในอีกมุมหนึ่งของประเทศกว้างใหญ่นี้ ยังซ่อน “หมู่บ้านริมทะเล” เล็กๆ ที่เงียบสงบ เป็นเหมือนโอเอซิสของนักเดินทางที่แสวงหาความสงบและการใช้ชีวิตแบบ สโลว์ไลฟ์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่การพักผ่อน แต่เป็นการหยุดเวลาไว้ชั่วคราว ให้หัวใจได้พักหายใจ ในบทความนี้ แอดมินจะพาคุณไปดูวิถีชีวิตของหมู่บ้านริมทะเลในแคนาดาที่ทั้งงดงาม มีเสน่ห์ และเหมาะกับการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์อย่างแท้จริง

สถานที่เหมาะกับการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ในแคนาดา

Peggy’s Cove, Nova Scotia

Peggy’s Cove ใน Nova Scotia ประเทศแคนาดา เป็นหมู่บ้านริมทะเลที่เหมาะสุดๆ สำหรับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์! หมู่บ้านนี้มีเสน่ห์ด้วยบ้านไม้สีสันสดใส ประภาคาร Peggy’s Point Lighthouse อันโด่งดัง และวิวทะเลแอตแลนติกที่สวยงามตระการตา บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการเดินเล่นชิลๆ ชมวิวท้องทะเล หรือนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่ท้องถิ่น

Peggy’s Cove เป็นหมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของ Nova Scotia ห่างจากเมือง Halifax ประมาณ 43 กม. (ขับรถราว 45 นาที) หมู่บ้านนี้มีประชากรเพียงประมาณ 30-40 คน ทำให้มีบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว ไฮไลต์สำคัญคือ Peggy’s Point Lighthouse ประภาคารสีขาวแดงที่ตั้งตระหง่านบนโขดหินแกรนิต ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายรูปที่โด่งดังที่สุดในแคนาดา นอกจากนี้ หมู่บ้านยังมีบ้านไม้สีสันสดใส ท่าเรือเล็กๆ และร้านค้าท้องถิ่นที่ให้ฟีลเหมือนย้อนเวลาไปในยุคที่ชีวิตเรียบง่าย

Peggy’s Point Lighthouse

ทำไม Peggy’s Cove ถึงเหมาะกับสโลว์ไลฟ์

บรรยากาศเงียบสงบ: หมู่บ้านนี้มีขนาดเล็กและไม่พลุกพล่าน (ยกเว้นช่วง peak season ที่นักท่องเที่ยวอาจเยอะ) เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบช้าๆ ไร้ความเร่งรีบ
ธรรมชาติที่งดงาม: ชายฝั่งหินแกรนิต ทะเลสีฟ้าเข้ม และท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีตลอดวัน มอบความรู้สึกผ่อนคลายและเชื่อมโยงกับธรรมชาติ
วิถีชีวิตท้องถิ่น: ชาวบ้านที่นี่มีชีวิตเรียบง่าย ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง คุณสามารถสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมผ่านการพูดคุยหรือซื้อของที่ระลึกทำมือ
กิจกรรมที่ไม่เร่งรีบ: ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่น ถ่ายรูป หรือนั่งมองคลื่นกระทบโขดหิน ทุกอย่างที่นี่ชวนให้คุณช้าลงและดื่มด่ำกับช่วงเวลาปัจจุบัน

กิจกรรมแนะนำสำหรับสโลว์ไลฟ์

เดินเล่นในหมู่บ้าน

  • สำรวจถนนเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยบ้านไม้สีสันสดใสและท่าเรือประมง
  • แวะร้านค้าเล็กๆ เช่น Peggy’s Cove Gift Shop เพื่อซื้อของที่ระลึก เช่น โปสการ์ด งานศิลปะท้องถิ่น หรือเครื่องประดับทำมือ
  • ชมวิถีชีวิตของชาวประมง เช่น การซ่อมแหหรือเตรียมเรือ ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในภาพยนตร์เก่า
Peggy’s Cove

ชมประภาคาร Peggy’s Point Lighthouse

  • ประภาคารนี้เป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้าน ตั้งอยู่บนโขดหินขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวทะเลแอตแลนติก
  • เหมาะสำหรับการถ่ายรูปหรือนั่งพักผ่อนเพื่อชมวิว โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก
  • ข้อควรระวัง: โขดหินอาจลื่นในวันที่ฝนตก ควรสวมรองเท้าที่เกาะพื้นดีและระวังคลื่นใหญ่
Peggy’s Point Lighthouse

เพลิดเพลินกับอาหารทะเล

  • ร้าน The Sou’Wester Restaurant & Gift Shop เป็นร้านยอดนิยมที่ตั้งอยู่ใกล้ประภาคาร เสิร์ฟอาหารทะเลสดๆ เช่น ล็อบสเตอร์โรล ซุปแคลมชาวเดอร์ และพายโฮมเมด
  • ลองสั่ง Nova Scotia lobster หรือ fish and chips พร้อมนั่งชมวิวทะเลเพื่อประสบการณ์ที่ผ่อนคลาย
  • ถ้าอยากได้ฟีลสโลว์ไลฟ์ยิ่งขึ้น ซื้ออาหารทะเลสดจากชาวประมงท้องถิ่น (ถ้ามี) และนำไปปรุงที่ที่พัก
Nova Scotia lobster

เดินป่าหรือสำรวจธรรมชาติ

  • มีเส้นทางเดินเลียบชายฝั่งรอบๆ Peggy’s Cove ที่ให้คุณได้สัมผัสกับโขดหิน ทะเล และลมเย็นๆ
  • ถ้าชอบถ่ายภาพธรรมชาติ บริเวณนี้มีจุดถ่ายรูปสวยๆ มากมาย โดยเฉพาะในช่วงเช้าหรือเย็นที่แสงนุ่มนวล
  • ถ้ามีเวลา ลองขับรถไปยัง Polly’s Cove (ห่างจาก Peggy’s Cove ประมาณ 2 กม.) ซึ่งเป็นเส้นทางเดินป่าที่เงียบสงบและมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
Peggy’s Cove

ดื่มด่ำกับศิลปะและวัฒนธรรม

  • เยี่ยมชม William E. deGarthe Gallery ซึ่งจัดแสดงผลงานของศิลปินท้องถิ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตชาวประมง
  • ดูอนุสาวรีย์ Fishermen’s Monument ซึ่งเป็นงานแกะสลักหินขนาดใหญ่ที่เล่าเรื่องราวของชุมชนประมง
  • ถ้าชอบศิลปะ ลองเข้าร่วมเวิร์กช็อปวาดภาพหรือถ่ายรูปที่บางครั้งจัดโดยศิลปินท้องถิ่น (เช็คตารางล่วงหน้า)
William E. deGarthe Gallery ภาพจาก whichmuseum.com

นั่งมองทะเลและผ่อนคลาย

  • หามุมสงบบนโขดหินหรือม้านั่งในหมู่บ้าน นั่งฟังเสียงคลื่นและสูดอากาศบริสุทธิ์
  • ลองฝึกสมาธิหรือโยคะเบาๆ ขณะชมวิว เพื่อให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลายเต็มที่
Peggy’s Cove
การเดินทาง
  • จาก Halifax: ขับรถประมาณ 45 นาที ทางหลวงหมายเลข 333 สะดวกและมีวิวสวย
  • รถบัส: มีทัวร์หรือรถบัสท้องถิ่นจาก Halifax แต่เช็ครอบให้ดีเพราะอาจไม่บ่อย
  • ที่จอดรถ: มีที่จอดรถใกล้หมู่บ้าน แต่ในช่วง peak season อาจเต็มเร็ว
  • คำแนะนำ: การเช่ารถจะสะดวกที่สุด เพราะทำให้คุณสำรวจพื้นที่รอบๆ เช่น Polly’s Cove หรือชายหาดใกล้เคียงได้ง่าย
ข้อควรรู้สำหรับสโลว์ไลฟ์
  • หลีกเลี่ยงช่วงนักท่องเที่ยวเยอะ: ช่วงเที่ยงถึงบ่ายในฤดูร้อนอาจมีนักท่องเที่ยวมาก แนะนำให้ไปเช้าตรู่หรือช่วงเย็นเพื่อความสงบ
  • เตรียมเสื้อผ้า: อากาศริมทะเลอาจเปลี่ยนแปลงเร็ว ควรพกเสื้อกันลมหรือแจ็คเก็ต
  • เคารพธรรมชาติและชุมชน: อย่าทิ้งขยะและระวังเมื่อเดินบนโขดหินเพื่อความปลอดภัย
  • อินเทอร์เน็ตและสัญญาณ: สัญญาณโทรศัพท์อาจไม่ดีในบางจุด เหมาะสำหรับการตัดขาดจากโลกออนไลน์เพื่อสโลว์ไลฟ์เต็มที่
ข้อมูลเพิ่มเติม
  • งบประมาณ: ค่าที่พักในบริเวณนี้อยู่ที่ประมาณ 3,000-6,000 บาทต่อคืนสำหรับ B&B หรือกระท่อม อาหารทะเลมื้อละ 300-600 บาทต่อคน
  • การติดต่อท้องถิ่น: ชาวบ้านเป็นมิตรและยินดีให้ข้อมูล ลองสอบถามเกี่ยวกับประวัติของหมู่บ้านหรือเรื่องเล่าท้องถิ่น
  • แหล่งข้อมูล: ตรวจสอบเว็บไซต์ท่องเที่ยว Nova Scotia (www.novascotia.com) หรือโพสต์บน X เพื่อดูรีวิวและอัปเดตล่าสุดจากนักท่องเที่ยว หรือติดต่อผ่านเรา ทัวร์รักนะแคนาดา

Tadoussac, Quebec

Tadoussac เป็นหมู่บ้านเล็กๆ อันเงียบสงบในจังหวัด Quebec ประเทศแคนาดา ตั้งอยู่ที่จุดบรรจบของแม่น้ำ St. Lawrence และ Saguenay Fjord ซึ่งเป็นฟยอร์ดแห่งเดียวในอเมริกาเหนือ หมู่บ้านนี้ขึ้นชื่อในฐานะหนึ่งใน “หมู่บ้านที่สวยที่สุดใน Quebec” และเป็นส่วนหนึ่งของสมาคม “Most Beautiful Bays in the World” ด้วยประชากรเพียงประมาณ 800 คน (ข้อมูลจากปี 2021) Tadoussac มอบบรรยากาศที่เงียบสงบ ผสานกับความงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทำให้เป็นจุดหมายในอุดมคติสำหรับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ ที่เน้นการดื่มด่ำกับธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น และการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ

Quebec

ทำไม Tadoussac ถึงเหมาะกับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์

ธรรมชาติที่งดงามและเงียบสงบ:
Tadoussac ตั้งอยู่ท่ามกลางอ่าวที่โอบล้อมด้วยภูเขา ฟยอร์ด Saguenay และแม่น้ำ St. Lawrence ซึ่งอุดมไปด้วยสัตว์ทะเล เช่น วาฬและแมวน้ำ บรรยากาศที่นี่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการหลีกหนีความวุ่นวายของเมือง

ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม:
เป็นการตั้งถิ่นฐานของชาวฝรั่งเศสแห่งแรกในอเมริกาเหนือ (ก่อตั้งในปี 1599) ทำให้มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เช่น โบสถ์ไม้เก่าแก่ที่สุดในอเมริกาเหนือ (Petite Chapelle) และโพสต์การค้าขนสัตว์ Chauvin Trading Post

วิถีชีวิตท้องถิ่นที่เรียบง่าย:
ชาวบ้านส่วนใหญ่มีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับธรรมชาติและการท่องเที่ยว คุณสามารถสัมผัสความอบอุ่นและการต้อนรับแบบ Québécois ได้จากร้านค้า คาเฟ่ และที่พัก

กิจกรรมที่เน้นความผ่อนคลาย:
จากการดูวาฬจากชายฝั่ง เดินป่า หรือนั่งจิบกาแฟพร้อมวิวทะเล ทุกอย่างใน Tadoussac ชวนให้คุณช้าลงและเพลิดเพลินกับช่วงเวลาปัจจุบัน

ไฮไลต์ของ Tadoussac สำหรับสโลว์ไลฟ์

สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรม
  • ดูวาฬ (Whale Watching):
    Tadoussac เป็นหนึ่งในจุดดูวาฬที่ดีที่สุดในโลก เนื่องจากน้ำในบริเวณนี้มีแพลงก์ตอนจำนวนมาก ดึงดูดวาฬหลายสายพันธุ์ เช่น วาฬมิงค์ (minke), วาฬหลังค่อม (humpback), วาฬฟิน (fin), วาฬสีน้ำเงิน (blue whale) และวาฬเบลูกา (beluga) ที่อาศัยอยู่ที่นี่ตลอดทั้งปี
    • ตัวเลือกการเที่ยว:
      • จากชายฝั่ง: เดินไปตาม Sentier de la Pointe-de-l’Islet Trail (ระยะทาง 800 เมตร) หรือนั่งที่ชายหาดเพื่อดูวาฬฟรีๆ โดยไม่ต้องลงเรือ
      • ทัวร์เรือ: ล่องเรือ Zodiac ขนาดเล็ก (เช่น Tadoussac Autrement) หรือเรือขนาดใหญ่ (เช่น Croisières AML) เพื่อดูวาฬใกล้ๆ ทัวร์ใช้เวลา 3-3.5 ชั่วโมง มีไกด์ผู้เชี่ยวชาญให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ทะเล
      • ช่วงแนะนำ: กลางเดือนพฤษภาคมถึงปลายตุลาคม
    • เคล็ดลับ: จองล่วงหน้าในช่วงฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.) เพราะนักท่องเที่ยวเยอะ

สำรวจ Saguenay Fjord:
ฟยอร์ด Saguenay เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามที่สุดในแคนาดา คุณสามารถ:

  • พายเรือคายัค: สัมผัสฟยอร์ดจากมุมมองที่ใกล้ชิด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบและการออกกำลังกายเบาๆ
  • เดินป่า: Parc national du Fjord-du-Saguenay มีเส้นทางเดินป่าหลายระดับ ตั้งแต่เส้นทางสั้นๆ ไปจนถึงเส้นทาง 3 วัน (47 กม.) ที่ให้วิวทิวทัศน์สุดอลังการ
  • ถ่ายรูป: วิวจากหน้าผาฟยอร์ดและจุดชมวิว เช่น Anse à la Barque เป็นจุดถ่ายรูปที่สมบูรณ์แบบ
พายเรือคายัค

เยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์:

  • Petite Chapelle de Tadoussac: โบสถ์ไม้ที่สร้างในปี 1747 เรียกอีกชื่อว่า “Indian Chapel” เป็นโบสถ์ไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกาเหนือ มีนิทรรศการเล็กๆ เกี่ยวกับชีวิตมิชชันนารี
  • Chauvin Trading Post: เป็นการจำลองโพสต์การค้าขนสัตว์แห่งแรกของทวีป (ก่อตั้งในปี 1600) มีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การค้าขนสัตว์และความสัมพันธ์ระหว่างชาวยุโรปและชนพื้นเมือง
  • Marine Mammal Interpretation Centre (CIMM): ศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ทะเล เช่น วาฬและแมวน้ำ มีโครงกระดูกวาฬขนาดใหญ่และข้อมูลเกี่ยวกับการอนุรักษ์วาฬเบลูกาที่ใกล้สูญพันธุ์
Marine Mammal Interpretation Centre (CIMM) ภาพจาก quebecmaritime.ca

เดินเล่นในหมู่บ้าน:

  • เดินตาม boardwalk หน้าโรงแรม Tadoussac เพื่อชมวิวอ่าวและถ่ายรูปบ้านสไตล์วิคตอเรียน
  • แวะ Tadoussac Beach เพื่อนั่งพักผ่อน ปิกนิก หรือเล่นน้ำในวันที่อากาศอบอุ่น
  • เยี่ยมชมร้านค้าเล็กๆ เพื่อซื้อของที่ระลึก เช่น งานฝีมือท้องถิ่นหรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
boardwalk

Dune de Tadoussac:

  • ห่างจากตัวหมู่บ้าน 2 กม. เป็นเนินทรายขนาดใหญ่ที่เกิดจากยุคน้ำแข็ง มอบวิวแม่น้ำ St. Lawrence และฟยอร์ดที่สวยงาม
  • เหมาะสำหรับการเดินป่า ถ่ายรูป หรือนั่งชมวิว โดยเฉพาะในวันที่ลมดีอาจเห็นนักร่มร่อน (paragliders)
  • การเดินทาง: ขับรถไปตามถนน Route 138 ไปยังที่จอดรถ จากนั้นเดิน 10-15 นาทีไปยังเนินทราย
Dune de Tadoussac

เทศกาลท้องถิ่น:

  • Festival de la Chanson de Tadoussac (จัดในเดือนมิถุนายน): เทศกาลดนตรีที่นำเสนอศิลปินท้องถิ่นและศิลปินฝรั่งเศสในบรรยากาศอบอุ่น เป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสวัฒนธรรม Québécois
  • North Shore Migratory Bird Festival: เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดูนก โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง
Festival de la Chanson de Tadoussac ภาพจาก tadoussac.com

อาหารท้องถิ่น:

Tadoussac มีร้านอาหารที่เน้นอาหารทะเลสดใหม่ เช่น ล็อบสเตอร์ หอยมัสเซิล และกุ้ง อาทิ

  • Restaurant du Boise (นอกหมู่บ้าน): เสิร์ฟอาหารทะเลจานใหญ่ เช่น ปูและแซลมอน แนะนำให้จองโต๊ะล่วงหน้า
  • Café Bohème: คาเฟ่บรรยากาศอบอุ่นในตัวหมู่บ้าน มีกาแฟคุณภาพสูง อาหารเช้า และอาหารท้องถิ่น เช่น poutine (มันฝรั่งทอดราดชีสและน้ำเกรวี่)
หอยมัสเซิล
ข้อควรรู้สำหรับสโลว์ไลฟ์
  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.) อากาศอบอุ่น (15-25°C) เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) มีสีสันสวยงามและนักท่องเที่ยวน้อยลง แต่ควรพกเสื้อกันหนาว
  • งบประมาณ:
    • ที่พัก: 3,000-7,000 บาทต่อคืน (ขึ้นอยู่กับประเภทที่พัก)
    • อาหาร: มื้อละ 300-800 บาทต่อคนสำหรับร้านอาหารท้องถิ่น
    • ทัวร์ดูวาฬ: 1,500-3,000 บาทต่อคน (ขึ้นอยู่กับประเภทเรือ)
  • การเตรียมตัว:
    • สวมรองเท้าเดินป่าสบายๆ และพกเสื้อกันลม เพราะอากาศริมน้ำอาจเย็นและลมแรง
    • นำกล้องส่องทางไกล (binoculars) มาสำหรับดูวาฬหรือนก
    • อินเทอร์เน็ตอาจไม่เสถียรในบางพื้นที่ เหมาะสำหรับการตัดขาดจากโลกออนไลน์เพื่อสโลว์ไลฟ์
  • เคารพธรรมชาติและชุมชน: อย่าทิ้งขยะ ระวังเมื่อเดินบนโขดหินหรือเนินทราย และปฏิบัติตามกฎของอุทยานแห่งชาติ
ข้อมูลเพิ่มเติม
  • แหล่งข้อมูล:
    • เว็บไซต์ท่องเที่ยว Quebec Maritime (www.quebecmaritime.ca)
    • เว็บไซต์ทางการของ Tadoussac (www.tadoussac.com)
    • รีวิวจาก Tripadvisor หรือโพสต์บน X เพื่อดูประสบการณ์ล่าสุดจากนักท่องเที่ยว
  • การติดต่อท้องถิ่น: แวะที่ Maison du Tourisme de Tadoussac เพื่อรับแผนที่และข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางเดินป่าและกิจกรรม หรือติดต่อผ่านเรา ทัวร์รักนะแคนาดา

Trinity, Newfoundland and Labrador

Trinity เป็นหมู่บ้านเล็กๆ อันงดงามตั้งอยู่ในอ่าว Trinity Bay บนคาบสมุทร Bonavista ในจังหวัด Newfoundland and Labrador ประเทศแคนาดา หมู่บ้านนี้เป็นหนึ่งในชุมชนที่เก่าแก่ที่สุดของแคนาดา ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 16 และเคยเป็นศูนย์กลางการค้าปลาเกลือ (salt fish trade) ที่เจริญรุ่งเรืองในช่วงศตวรรษที่ 18 ด้วยประชากรเพียง 76 คน (จากสำมะโนประชากรปี 2021) และบ้านเรือนสีสันสดใสที่เรียงรายตามถนนคดเคี้ยว ทำให้ Trinity เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ ที่คุณสามารถดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และความเงียบสงบของชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก

Trinity

ทำไม Trinity ถึงเหมาะกับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์

บรรยากาศเงียบสงบและเรียบง่าย:
ด้วยประชากรที่น้อยและขนาดหมู่บ้านที่เล็ก (พื้นที่ 12.92 ตร.กม.) Trinity มีความสงบและเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับการหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่

มรดกทางประวัติศาสตร์ที่อุดมสมบูรณ์:
Trinity มีอาคารเก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดี เช่น บ้านสไตล์ saltbox และโบสถ์ไม้เก่าแก่ ทำให้รู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต

ธรรมชาติที่งดงาม:
หมู่บ้านตั้งอยู่ในเขต Discovery UNESCO Global Geopark ซึ่งมีภูมิทัศน์ทางธรณีวิทยาอายุกว่า 560 ล้านปี รวมถึงหน้าผาหิน ฟอสซิล และวิวทะเลที่สวยงาม เหมาะสำหรับการเดินเล่นและถ่ายรูป

ชุมชนที่อบอุ่น:
ชาวบ้านใน Trinity หรือที่เรียกว่า “baymen” มีความเป็นมิตรและต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น คุณสามารถสัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมงที่เรียบง่ายและเป็นกันเอง

กิจกรรมที่เน้นการผ่อนคลาย:
จากการเดินป่า ดูวาฬ ไปจนถึงการชมละครท้องถิ่น กิจกรรมใน Trinity ชวนให้คุณช้าลงและเพลิดเพลินกับช่วงเวลาปัจจุบัน

    ไฮไลต์ของ Trinity สำหรับสโลว์ไลฟ์

      สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรม

      สำรวจมรดกทางประวัติศาสตร์:

      • St. Paul’s Anglican Church: โบสถ์ไม้ที่เก่าแก่ที่สุดใน Newfoundland สร้างในปี 1729 และได้รับการถวายในปี 1827 มีความเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ด้วยการตกแต่งภายในแบบดั้งเดิมและประวัติศาสตร์อันยาวนาน
      St. Paul’s Anglican Church
      • Hiscock House Provincial Historic Site: บ้านเก่าแก่ที่แสดงถึงชีวิตในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 มีทัวร์พร้อมไกด์และของว่างแบบ Newfoundland เช่น cod cakes และ partridge berry pickles (ให้บริการฟรีในบางช่วง เช่น Truth and Reconciliation Week)
      Hiscock House Provincial Historic Site ภาพจาก nationaltrustcanada.ca
      • Lester-Garland House: บ้านอิฐที่ได้รับการบูรณะใหม่ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เล่าเรื่องราวของพ่อค้าชาวอังกฤษในยุค 1700s
      Lester-Garland House ภาพจาก trinityhistoricalsociety.com
      • Green Family Forge: พิพิธภัณฑ์ช่างตีเหล็กที่แสดงการสาธิตการตีเหล็กแบบดั้งเดิม น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานฝีมือและประวัติศาสตร์
      Green Family Forge ภาพจาก nationaltrustcanada.ca
      • Fort Point Lighthouse: สร้างในปี 1871 บนพื้นที่ที่เคยเป็นป้อมปราการในปี 1748 มีประวัติเกี่ยวกับการปกป้องเมืองจากการรุกรานของฝรั่งเศส วิวจากที่นี่สวยงามและเงียบสงบ

      เดินป่าและสัมผัสธรรมชาติ:

      • Skerwink Trail (5.3 กม., ใกล้ Port Rexton): เส้นทางเดินป่ายอดนิยมที่มองเห็นหน้าผา ถ้ำทะเล และบางครั้งอาจเห็นวาฬและนกทะเล เช่น นกพัฟฟิน
      • Gun Hill Trail: เส้นทางสั้นที่ให้วิวพานอรามาของหมู่บ้าน Trinity และอ่าว เหมาะสำหรับการถ่ายรูปและนั่งพักผ่อน ในช่วงกรกฎาคมจะมีดอก lupins ขึ้นสวยงาม
      • Fox Island Trail (5.5 กม.): เส้นทางที่ผ่านหมู่บ้านประมงและชายฝั่ง มีโอกาสเห็นสัตว์ป่าและทิวทัศน์ที่งดงาม
      Skerwink Trail ภาพจาก newfoundlandlabrador.com

      ดูวาฬและนกทะเล:

      • Trinity เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการดูวาฬ (humpback, minke, fin) และนกทะเล เช่น นกพัฟฟิน โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน (มิ.ย.-ส.ค.)
      • Trinity Eco-Tours: เสนอทัวร์เรือ Zodiac และพายเรือคายัคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไกด์ เช่น Skipper Bob มีความรู้เกี่ยวกับสัตว์ทะเลและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น
      • คุณสามารถดูวาฬจากชายฝั่งได้ที่จุดชมวิว เช่น Fort Point หรือนั่งเรือเพื่อประสบการณ์ที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น
      Humpback whales – Seen from Brigus Head Path ภาพจาก newfoundsander.wordpress.com

      สรุปบทความ ชีวิตที่ไม่ควรเร่งรีบตลอดเวลา

      ในโลกที่หมุนเร็วด้วยข้อมูล ความคาดหวัง และเสียงรบกวน หมู่บ้านริมทะเลในแคนาดาเหล่านี้เปรียบเสมือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ให้เราได้ “หยุด” และ “ฟัง” เสียงของตัวเองอีกครั้ง ไม่จำเป็นต้องรีบ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้สำเร็จ แค่ได้อยู่ ได้หายใจ ได้ฟังเสียงทะเล และได้ยิ้มให้กับคนแปลกหน้าริมท่าเรือ ก็เพียงพอแล้วสำหรับความสุขแบบสโลว์ไลฟ์

      ถ้าวันหนึ่งคุณอยากหาที่พักใจ ลองมองข้ามเมืองใหญ่ และมองหาหมู่บ้านริมทะเลเหล่านี้ในแคนาดา บางทีคุณอาจพบว่า “ชีวิตที่ช้าลง” ไม่ได้แปลว่าเสียเวลา แต่คือการใช้เวลารูปแบบใหม่ ที่เราไม่เคยรู้ว่า จำเป็นแค่ไหน

      สอบถามหรือจองทัวร์ LINE : @lovecanada หรือคลิกที่ลิ้งค์นี้ > https://lin.ee/ngoQmSm3
      โทรสอบถาม 098-4987-5484 หรือ 093-581-9542
      โปรแกรมเที่ยวของ ทัวร์รักนะแคนาดา

      #ทัวร์รักนะแคนาดา #เที่ยวแคนาดา #ทริปส่วนตัว #แคนาดา