Menu
Top 10 Photo Spots in Canada You Shouldn’t Miss!

10 จุดถ่ายรูปสุดปังในแคนาดา ไปแล้วห้ามพลาด!

ประเทศแคนาดาไม่ได้มีดีแค่ธรรมชาติอลังการ แต่ยังเป็นสวรรค์ของคนรักการถ่ายรูป ไม่ว่าจะสายวิว สายแฟ สายคาเฟ่ หรือสายครอบครัว ก็มีโลเคชันให้เก็บภาพประทับใจได้ทุกช่วงเวลา มาดูกันเลยว่า 10 สถานที่สุดปังในแคนาดา ที่ห้ามพลาดถ่ายรูปมีที่ไหนบ้าง!

10 สถานที่ในแคนาดาที่ห้ามพลาด

1. Lake Louise, Alberta– ความงามระดับโลกที่ต้องเห็นด้วยตาตัวเอง

Lake Louise, Alberta

Lake Louise (เลกหลุยส์) คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดของแคนาดา ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Banff รัฐ Alberta โดดเด่นด้วย น้ำทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์สดใส รายล้อมด้วย เทือกเขาร็อกกี้ และ ธารน้ำแข็ง Victoria Glacier ที่อยู่ด้านหลัง ราวกับฉากในโปสต์การ์ดที่มีชีวิตจริง

ทะเลสาบนี้ได้ชื่อว่าเป็น “อัญมณีแห่งเทือกเขาร็อกกี้” และเป็นหนึ่งใน จุดถ่ายภาพยอดนิยมระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อนที่น้ำใสราวกระจก หรือหน้าหนาวที่กลายเป็นลานสเก็ตน้ำแข็งกลางหุบเขา

ไฮไลต์เมื่อมา Lake Louise

  • พายเรือแคนูในทะเลสาบ: ช่วงซัมเมอร์ สามารถเช่าเรือพายลอยชมธรรมชาติในทะเลสาบสีมรกตได้
  • เดินชมวิวจากริมทะเลสาบ: ทางเดินง่ายๆ เหมาะสำหรับทุกวัย พร้อมจุดถ่ายรูปเยอะมาก
  • พักที่โรงแรม Fairmont Chateau Lake Louise: โรงแรมหรูสุดคลาสสิก ตั้งอยู่ริมน้ำ พร้อมวิวทะเลสาบแบบเต็มๆ
  • ฤดูหนาว: กลายเป็นสวรรค์ของนักเล่นสเก็ตและสโนว์บอร์ด พร้อมเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งสุดอลังการ

เหมาะสำหรับ

Lake Louise, Alberta
  • คู่รักสายโรแมนติก
  • นักถ่ายภาพ
  • ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุและเด็ก (มีทางเดินเรียบ, เดินง่าย)
  • สายธรรมชาติ ชอบความเงียบสงบ

ทิปจากแอดมินรักนะแคนาดา

ถ้าอยากได้ภาพทะเลสาบแบบไร้คน แนะนำให้ไปช่วงเช้าก่อน 9 โมง และถ้าตรงกับฤดูใบไม้เปลี่ยนสี วิวจะอลังสุดๆ เลยครับ!


2. Banff Town – เมืองกลางขุนเขาที่สวยราวกับภาพวาด

Banff Town คือหัวใจของอุทยานแห่งชาติ Banff ในรัฐ Alberta ประเทศแคนาดา เมืองเล็กๆ แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางเทือกเขาร็อกกี้ เต็มไปด้วย ร้านอาหาร คาเฟ่ บูติก และแกลเลอรี่ ที่กลมกลืนกับธรรมชาติอย่างลงตัว

แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่บรรยากาศโรแมนติกและเงียบสงบของ Banff ทำให้ที่นี่เป็น จุดแวะพักยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาว

Fairmont Banff Springs Hotel – ปราสาทกลางหุบเขาในตำนาน

หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของ Banff คือ Fairmont Banff Springs Hotel โรงแรมระดับ 5 ดาวที่สร้างมาตั้งแต่ปี 1888 และได้รับฉายาว่า “Castle in the Rockies” เพราะหน้าตาเหมือนปราสาทยุโรปที่ตั้งตระหง่านกลางหุบเขา

ที่นี่ไม่ใช่แค่ที่พักสุดหรู แต่ยังเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปที่พลาดไม่ได้ ใครผ่านมา Banff ต้องแวะมาถ่ายภาพด้านหน้าตัวโรงแรม ซึ่งจะเห็นฉากหลังเป็นภูเขาและแม่น้ำ Bow แบบอลังการสุดๆ

ทำไมต้องมา Banff Town + Fairmont Banff Springs?

  • ถ่ายรูปสวยทุกมุม: ทั้งในเมือง ในโรงแรม หรือบนสะพานข้ามแม่น้ำ Bow
  • เดินเล่นชิลๆ ในเมือง: ร้านค้าและร้านอาหารเรียงรายเป็นแนวเดียวกับเทือกเขา เหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายรูป และซื้อของฝาก
  • จิบกาแฟพร้อมวิวหิมะ: มีคาเฟ่น่ารักๆ หลายแห่งที่มองออกไปเห็นวิวเทือกเขา
  • สปาระดับโลกในโรงแรม: ใครอยากพักผ่อนสุดหรู ต้องลอง Willow Stream Spa ที่ Fairmont

แนะนำจุดถ่ายรูปห้ามพลาด

  • ด้านหน้าตัวโรงแรม Fairmont Banff Springs มุมไกลที่เห็นทั้งโรงแรมและภูเขาด้านหลัง
  • สะพาน Bow River Bridge มองย้อนกลับมาเห็นเมือง Banff พร้อมภูเขา
  • Banff Avenue มองตรงไปจะเห็นถนนเรียงรายพร้อมฉากหลังเป็นภูเขา Cascade Mountain
Bow River Pedestrian Timber Bridge, Banff ภาพจาก StructureCraft

ทิปจากแอดมินรักนะแคนาดา

อย่าลืมแวะไปจุดชมวิว Surprise Corner Viewpoint ซึ่งจะเห็นโรงแรม Fairmont ราวกับลอยอยู่กลางป่า! และถ้ามาหน้าหนาว เมืองทั้งเมืองจะกลายเป็นเหมือนหมู่บ้านในเทพนิยายเลยครับ


3. Peyto Lake – ทะเลสาบรูปสุนัขจิ้งจอกสุดน่ารักแห่งเทือกเขาร็อกกี้

Peyto Lake (เปโต เลค) คือหนึ่งในไฮไลต์ของอุทยานแห่งชาติ Banff ที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด! ตั้งอยู่บน Icefields Parkway ถนนสายท่องเที่ยวสายโรแมนติกที่สุดสายหนึ่งของแคนาดา เชื่อมระหว่าง Banff และ Jasper

ทะเลสาบแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน จุดชมวิวที่สวยที่สุดในแคนาดา ด้วยรูปร่างคล้าย “หัวของสุนัขจิ้งจอก” เมื่อมองจากจุดชมวิวบนเขา และสีของน้ำที่ฟ้าเทอร์ควอยซ์เข้มจัดจ้านจนเหมือนหลุดมาจากภาพวาด

Peyto Lake มุมมองจาก Bow Summit Lookout ซึ่งเป็นจุดชมวิวหลัก

ทำไม Peyto Lake ถึงไม่ควรพลาด?

  • สีของน้ำ: เกิดจากผงน้ำแข็ง (glacial rock flour) ที่ละลายมาจากธารน้ำแข็ง ทำให้น้ำในทะเลสาบเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์เข้มแปลกตา
  • วิวจากบนสูง: มีทางเดินขึ้นไปยัง Bow Summit Lookout ซึ่งเป็นจุดชมวิวหลัก มองลงมาเห็นทะเลสาบชัดเจนในมุมสูงที่สุด
  • รูปทรงคล้ายสุนัขจิ้งจอก: จุดเด่นที่ทำให้ที่นี่ไม่เหมือนใคร และกลายเป็นภาพ iconic ของแคนาดา
  • ถ่ายรูปง่าย วิวเป๊ะ: เพียงเดินขึ้นทางลาดประมาณ 10 นาที ก็จะได้เจอมุมสุดปัง ไม่ต้องปีนเขาโหด ๆ

ควรมาเที่ยวช่วงไหน?

  • ฤดูร้อน – ฤดูใบไม้ร่วง (มิ.ย. – ต.ค.): เป็นช่วงที่น้ำละลายแล้ว เห็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ชัดเจนที่สุด
  • ฤดูหนาว: ทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง และวิวจะถูกปกคลุมด้วยหิมะ แต่ถนนอาจปิดบางช่วง

ทิปจากแอดมินรักนะแคนาดา

“อย่าลืมพกเลนส์ไวด์ไปด้วยนะครับ เพราะวิวกว้างจนกล้องมือถือเก็บไม่หมด! และแนะนำไปช่วงเช้าหรือเย็นแสงจะสวยมาก ถ้าโชคดี อาจได้เห็นหมอกคลอทะเลสาบ เพิ่มความฟินแบบเทพนิยายเข้าไปอีก!”


4. Moraine Lake – ทะเลสาบสีฟ้าสะกดใจในหุบเขาแห่งสิบยอด

Moraine Lake, Alberta

Moraine Lake (โมเรน เลค) คือหนึ่งในแลนด์มาร์กที่ถูกจัดอันดับให้เป็น “ทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก” ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Banff จังหวัด Alberta ประเทศแคนาดา รายล้อมด้วย Ten Peaks (ยอดเขาทั้งสิบ) ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลัง สร้างความงดงามอลังการแบบพาโนรามาจนหลายคนถึงกับต้องกลั้นหายใจ

ไฮไลต์เด็ดของ Moraine Lake

  • สีของน้ำที่ไม่มีที่ไหนเหมือน: สีฟ้าแบบ “Blue Gatorade” หรือบางคนบอกว่าเหมือนหยกฟ้า เกิดจากธารน้ำแข็งที่ละลายแล้วพาแร่ธาตุพิเศษลงสู่ทะเลสาบ
  • วิวภูเขาสะท้อนน้ำ: Ten Peaks ที่เรียงรายสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง สะท้อนกับผิวน้ำแบบเป๊ะเวอร์ เหมือนภาพโปสการ์ดที่มีชีวิต
  • จุดถ่ายรูปสุดไอคอนิก: บริเวณกองหินสูงด้านหน้าทะเลสาบ เรียกว่า “Rockpile Trail” ซึ่งมุมนี้ถูกใช้บนธนบัตรแคนาดา 20 ดอลลาร์ในอดีตอีกด้วย
Rockpile Trail

ควรมาเที่ยวช่วงไหน?

  • ปลายเดือนมิถุนายน – ต้นตุลาคม: เป็นช่วงที่ถนนเปิด (เพราะฤดูหนาวจะปิดทางเข้า) และน้ำในทะเลสาบละลายหมด เห็นสีฟ้าชัดที่สุด
  • ช่วงพระอาทิตย์ขึ้น: เป็นเวลาที่วิวสวยมากที่สุด แสงอาทิตย์ตกกระทบยอดเขา Ten Peaks กลายเป็นสีทองอมชมพูตัดกับน้ำสีฟ้า
แสงอาทิตย์ตกกระทบยอดเขา Ten Peaks

การเดินทางไป Moraine Lake

  • ตั้งอยู่ห่างจาก Lake Louise Village ประมาณ 14 กิโลเมตร
  • ถนนสู่ Moraine Lake ปิดสำหรับรถส่วนตัวตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป ต้องจอง Shuttle Bus ล่วงหน้า หรือใช้บริการ Private Tour เท่านั้น
  • ใครจองทัวร์กับ “รักนะแคนาดา” ไม่ต้องห่วง! เราวางแผนให้เรียบร้อย เดินทางสบาย ดูพระอาทิตย์ขึ้นได้แน่นอน

จุดถ่ายรูปแนะนำ

  • Rockpile Lookout: จุดชมวิวสูงจากกองหิน มองเห็นทะเลสาบกับ Ten Peaks สะท้อนน้ำ
  • พายเรือแคนู: ช่วงฤดูร้อนมีให้บริการ เช่าเรือพายท่ามกลางฉากหลังภูเขา เป็นประสบการณ์ที่ Unseen สุด ๆ
  • เส้นทางเดินริมทะเลสาบ: เก็บภาพมุมต่ำที่เห็นทั้งป่าสน น้ำฟ้า และภูเขาหิมะ

ทิปจากแอดมินรักนะแคนาดา

“ถ้าอยากได้ภาพแบบไม่มีคน แนะนำมารอตั้งแต่ตี 4-5 แล้วขึ้นจุด Rockpile รอพระอาทิตย์ขึ้นเลยครับ บอกเลยว่าคุ้มค่า และภาพที่ได้จะกลายเป็นความทรงจำตลอดชีวิต!”


5. Capilano Suspension Bridge – สะพานแขวนสุดตื่นเต้นกลางป่าสนแวนคูเวอร์

ถ้าพูดถึงแลนด์มาร์กท่องเที่ยวในเมืองแวนคูเวอร์ (Vancouver) สถานที่ที่ต้องไปเยือนเลยก็คือ สะพานแขวน Capilano สะพานไม้แขวนยาวกว่า 137 เมตร เหนือหุบเขาและลำธารที่ลึกถึง 70 เมตร ให้คุณได้สัมผัสความท้าทายแบบใจเต้นแรง พร้อมวิวธรรมชาติรอบตัวที่สวยงามสุด ๆ

Capilano Suspension Bridge

ไฮไลต์ที่คุณจะได้เจอที่ Capilano Suspension Bridge

  • เดินข้ามสะพานแขวนไม้ที่โคลงไหวเบา ๆ: ได้ลุ้นทุกก้าว แต่วิวรอบข้างสวยจนลืมกลัว
  • ป่าเรนฟอเรสต์เขียวขจี: มีเส้นทางเดินป่าและสะพานย่อยๆ ให้สำรวจ รวมถึงเส้นทางเดินเหนือเรือนยอดไม้ (Treetops Adventure)
  • Cliffwalk: ทางเดินเลียบหน้าผาที่แขวนลอยเหนือแม่น้ำ เป็นอีกจุดที่ได้วิวสวยและตื่นเต้นไม่แพ้สะพานหลัก
  • ความรู้ด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม: มีจุดให้ความรู้เกี่ยวกับป่าไม้และชนเผ่าพื้นเมืองแถบนี้ ที่ช่วยเพิ่มความเข้าใจและคุณค่าให้กับการเดินทาง
Cliffwalk

เวลาและช่วงที่ควรไปเที่ยว

  • เปิดทุกวันตั้งแต่เช้าตรู่ถึงค่ำ (แนะนำไปเช้าหรือบ่ายแก่ๆ เพื่อลดคนหนาแน่น)
  • ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – ตุลาคม) จะสวยมาก เหมือนภาพวาด

จุดถ่ายรูปเด็ด ๆ ที่ไม่ควรพลาด

  • มุมจากกลางสะพานแขวน มองเห็นต้นไม้และน้ำไหลเบื้องล่าง
  • Treetops Adventure ที่ได้ภาพสวยของเรือนยอดไม้กับแสงแดดลอดผ่าน
  • Cliffwalk มุมที่เห็นวิวหน้าผาสูงและแม่น้ำสุดอลัง
  • จุดถ่ายรูปกับป้าย Capilano Suspension Bridge ดั้งเดิม

ทิปจากแอดมินรักนะแคนาดา

“อย่าลืมใส่รองเท้าผ้าใบเดินสบายๆ เพราะทางเดินส่วนใหญ่เป็นไม้ และมีจุดที่ต้องปีนบันไดเล็กน้อยนะครับ ส่วนคนกลัวความสูง แนะนำว่าลองใจเย็นๆ เดินช้าๆ จะสนุกมากเลยครับ!”


6. Niagara Falls, Ontario – น้ำตกที่ทรงพลังและสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

Niagara Falls เป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ที่ชายแดนระหว่างประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา ฝั่งที่เป็นจังหวัด Ontario ของแคนาดานั้นได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะวิวสวย ชมได้ง่าย และมีกิจกรรมสนุกๆ มากมาย

ไฮไลต์ของ Niagara Falls

  • น้ำตกขนาดใหญ่และทรงพลัง: มีปริมาณน้ำตกลงมาอย่างมหาศาล เสียงน้ำตกและละอองน้ำทำให้รู้สึกสดชื่นและตื่นตาตื่นใจทุกครั้งที่มาเยือน
  • มุมชมวิวหลากหลาย: ทั้งจากจุดชมวิวบนฝั่งแคนาดา, จุดชมจากบนหอ Observation Tower, หรือแม้แต่ชมจากเรือ Maid of the Mist ที่ล่องเข้าใกล้น้ำตก
  • น้ำตก 3 ส่วนหลัก: Horseshoe Falls (ส่วนที่ใหญ่ที่สุด), American Falls และ Bridal Veil Falls
  • แสงไฟสีสันยามค่ำคืน: น้ำตกจะถูกเปิดไฟประดับสีสันสวยงามหลากหลายโทน เป็นบรรยากาศที่โรแมนติกและน่าประทับใจ

กิจกรรมที่ห้ามพลาด

  • ล่องเรือ Maid of the Mist: ล่องเรือเข้าใกล้น้ำตก ให้สัมผัสละอองน้ำแบบเต็มๆ เป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นและสนุกสุดๆ
  • Journey Behind the Falls: เดินลอดอุโมงค์ด้านหลังน้ำตก ชมวิวและได้ยินเสียงน้ำตกอย่างใกล้ชิด
  • Clifton Hill: ถนนสายบันเทิงที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านขนมหวาน และสวนสนุก เหมาะกับครอบครัวและสายชิล
  • ทัวร์ไวน์ Niagara-on-the-Lake: แวะชิมไวน์และชมไร่องุ่นในย่านใกล้เคียง

เวลาและฤดูกาลที่แนะนำ

  • ตลอดทั้งปี: แต่ละฤดูก็มีเสน่ห์ เช่น ฤดูร้อนน้ำตกไหลแรงสุด, ฤดูหนาวมีน้ำแข็งเกาะงดงาม
  • ช่วงเทศกาลแสงไฟและดอกไม้ไฟ: มักมีจัดช่วงฤดูร้อนและวันหยุดพิเศษ

ทิปจากแอดมินรักนะแคนาดา

“เตรียมเสื้อกันฝนหรือแจ็คเก็ตกันน้ำไปด้วย เพราะละอองน้ำจากน้ำตกอาจทำให้เปียก และถ้าอยากได้ภาพสวยช่วงพระอาทิตย์ตก บ่ายแก่ ๆ คือเวลาที่แนะนำมากที่สุดครับ”


7. Old Quebec City – เมืองเก่ายุโรปใจกลางแคนาดา

Old Quebec City (เมืองเก่าเกเบก) เป็นหนึ่งในเมืองประวัติศาสตร์ที่มีเสน่ห์ที่สุดของแคนาดา และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ด้วยสถาปัตยกรรมยุโรปโบราณ ถนนหินกรวด และกำแพงเมืองโบราณที่ยังคงความสมบูรณ์ เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นโดยชาวฝรั่งเศสตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ทำให้ยังคงกลิ่นอายวัฒนธรรมฝรั่งเศสและบรรยากาศย้อนยุคให้สัมผัสได้อย่างเต็มเปี่ยม

Stores along Street in Quebec

ไฮไลต์ที่ต้องไปเยือนใน Old Quebec City

  • Château Frontenac: โรงแรมสุดหรูในสไตล์ยุโรป ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองและมักถูกใช้เป็นฉากหลังในภาพถ่ายยอดนิยม
  • ถนน Petit-Champlain: ถนนคนเดินสุดคลาสสิกที่เรียงรายด้วยร้านค้าของที่ระลึก คาเฟ่ และร้านอาหารแบบฝรั่งเศส
  • Place Royale: จัตุรัสเก่าแก่ที่มีอาคารสีสันสดใสและโบสถ์ Notre-Dame-des-Victoires ที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกาเหนือ
  • กำแพงเมืองเก่า: เดินเล่นบนกำแพงเมือง หรือชมวิวเมืองจากจุดสูง
  • Rue du Trésor: แหล่งรวมงานศิลปะและของที่ระลึกทำมือ จากศิลปินท้องถิ่น
ถนน Petit-Champlain

อาหารและวัฒนธรรม

เมืองเก่าเกเบกมีร้านอาหารฝรั่งเศสแท้ ๆ ให้ลิ้มลอง รวมถึงร้านขนมปัง ขนมหวาน และร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่น่านั่งบรรยากาศอบอุ่น เหมาะกับการนั่งพักผ่อนหลังเดินเที่ยว

ฤดูกาลที่แนะนำ

  • ฤดูร้อน – ต้นฤดูใบไม้ร่วง: อากาศดี เดินเล่นได้สบาย และมีเทศกาลดนตรี-วัฒนธรรมตลอดปี
  • ฤดูหนาว: เมืองถูกปกคลุมด้วยหิมะ กลายเป็นหมู่บ้านในเทพนิยาย พร้อมกิจกรรมสกีและงานเทศกาลน้ำแข็งสุดอลังการ

ทิปจากแอดมินรักนะแคนาดา

“อย่าลืมใส่รองเท้าสบายๆ สำหรับเดินบนถนนหิน และถ้าอยากได้บรรยากาศสุดโรแมนติก แนะนำมาเที่ยวช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่นี่ครับ!”


8. Tofino, British Columbia – เมืองชายฝั่งที่สวยงามและเงียบสงบบนเกาะ Vancouver Island

Tofino คือเมืองเล็กๆ ริมทะเลที่ตั้งอยู่บน เกาะ Vancouver Island ในรัฐ British Columbia เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับคนรักธรรมชาติ สายผจญภัย และผู้ที่ต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริงในบรรยากาศที่สงบเงียบและสวยงามสุดๆ

Tofino, British Columbia

ไฮไลต์ของ Tofino

  • ชายหาดสวยและสงบ: ชายหาด Long Beach เป็นหนึ่งในชายหาดที่ยาวและสวยที่สุดในแคนาดา เหมาะกับการเดินเล่น ชมพระอาทิตย์ตก หรือเล่นเซิร์ฟ
  • ป่าเรนฟอเรสต์โบราณ: รอบๆ เมืองเต็มไปด้วยป่าเขียวขจี ที่มีต้นไม้สูงใหญ่และหลากหลายพันธุ์ให้สำรวจ
  • กิจกรรมล่าแสงเหนือ (Aurora Borealis) และชมวาฬ: Tofino เป็นจุดชมวาฬและชมแสงเหนือที่มีชื่อเสียงในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
  • บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ: ที่ Hot Springs Cove อยู่ไม่ไกลจาก Tofino สามารถนั่งเรือไปสัมผัสบ่อน้ำพุร้อนกลางป่าธรรมชาติได้

กิจกรรมยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด

  • เล่นเซิร์ฟ: Tofino เป็นสวรรค์ของนักเล่นเซิร์ฟในแคนาดา มีคลื่นสวยและชายหาดเหมาะสำหรับทุกระดับ
  • พายเรือคายัคและตกปลา: สำรวจอ่าวและชายฝั่งทะเลด้วยเรือคายัค
  • ชมวาฬและสัตว์ทะเล: ทัวร์ดูวาฬและแมวน้ำ รวมถึงนกนานาชนิด
  • เดินป่า: มีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นผ่านป่าและชายฝั่งที่งดงาม

ช่วงเวลาที่ควรไปเที่ยว

  • ฤดูร้อน (มิถุนายน – กันยายน): อากาศอบอุ่น เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง
  • ฤดูใบไม้ร่วง – ต้นฤดูหนาว: ช่วงที่เหมาะกับการชมแสงเหนือและดูวาฬ

ทิปจากแอดมินรักนะแคนาดา

“เตรียมเสื้อกันฝนและรองเท้าสำหรับเดินป่า เพราะอากาศใน Tofino อาจเปลี่ยนแปลงเร็ว และป่าเขาแถวนี้จะชุ่มชื้นเสมอ แต่บรรยากาศดีและวิวสวยสุดๆ คุ้มค่าที่จะมา!”

Tofino คือจุดหมายที่ลงตัวสำหรับคนที่ชอบทั้งทะเล ป่าเขา และความสงบ ไม่ว่าสายแอดเวนเจอร์หรือสายชิล ก็ฟินได้เต็มที่
รักนะแคนาดาพร้อมดูแลจัดทริปพาคุณไปสัมผัสความงดงามนี้อย่างเต็มอิ่มครับ!


9. CN Tower – สัญลักษณ์แห่งมหานครโตรอนโตและหอคอยที่สูงที่สุดในแคนาดา

CN Tower ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโตรอนโต รัฐออนแทรีโอ เป็นหนึ่งในหอคอยที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงประมาณ 553 เมตร และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือนทุกปี

ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดของ CN Tower

  • จุดชมวิว 360 องศา: ขึ้นลิฟต์ความเร็วสูงไปยังชั้นชมวิวบนยอดหอคอย เพลิดเพลินกับวิวเมืองโตรอนโต ทะเลสาบออนแทรีโอ และเส้นขอบฟ้าที่กว้างไกลสุดสายตา
  • EdgeWalk: กิจกรรมสุดระทึกใจที่ให้คุณได้เดินบนทางเดินรอบนอกของหอคอย (ความสูงประมาณ 356 เมตร!) โดยมีอุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วน เป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและไม่เหมือนใครในโลก
  • พื้นกระจกใส (Glass Floor): จุดชมวิวที่มีพื้นกระจกใส ทำให้คุณสามารถมองลงไปเห็นพื้นด้านล่างที่สูงชัน ได้ความรู้สึกเสียววาบและสนุกสนาน
  • ร้านอาหาร 360 Restaurant: ร้านอาหารหมุนได้ที่ตั้งอยู่บนยอดหอคอย ให้คุณรับประทานอาหารพร้อมชมวิวเมืองที่เปลี่ยนไปรอบตัวอย่างช้าๆ โรแมนติกสุดๆ
  • แสงไฟยามค่ำคืน: หอคอยจะมีการเปิดไฟสีสันสดใส เปลี่ยนสีไปตามโอกาสพิเศษต่างๆ สร้างบรรยากาศที่สวยงามให้เมืองในยามค่ำคืน
EdgeWalk ภาพจาก cntower.ca
EdgeWalk ภาพจาก cntower.ca
Glass Floor ภาพจาก cntower.ca
360 Restaurant ภาพจาก cntower.ca

เวลาและการเข้าชม

  • CN Tower เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ
  • ควรจองตั๋วล่วงหน้าโดยเฉพาะสำหรับกิจกรรม EdgeWalk เพราะจำกัดจำนวนและได้รับความนิยมมาก

ทิปจากแอดมินรักนะแคนาดา

“ถ้าอยากได้ภาพวิวเมืองแบบสวยสุด แนะนำให้ขึ้นไปช่วงพระอาทิตย์ตก จะเห็นวิวทั้งเมืองที่เปลี่ยนจากแสงกลางวันสู่แสงไฟระยิบระยับในเวลาเดียวกัน สวยจนลืมหายใจเลยครับ!”

CN Tower คือแลนด์มาร์กที่ต้องไปเมื่อมาเที่ยวโตรอนโต และเป็นประสบการณ์ที่ผสมผสานทั้งความตื่นเต้นและความงดงามของวิวธรรมชาติและเมืองใหญ่ ถ้าไปกับทัวร์รักนะแคนาดา เราจะช่วยจัดโปรแกรมและบอกทริคเด็ดๆ ให้คุณเที่ยวได้เต็มที่ไม่พลาดอะไรครับ!


10. Icefields Parkway – ถนนสายโรแมนติกแห่งเทือกเขาร็อกกี้

Icefields Parkway (ทางหลวงหมายเลข 93) เป็นหนึ่งในถนนที่สวยที่สุดในโลก ตั้งอยู่ระหว่างอุทยานแห่งชาติ Banff และ Jasper ในรัฐ Alberta แคนาดา ถนนสายนี้ยาวประมาณ 230 กิโลเมตร ผ่านวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่น่าทึ่ง ทั้งภูเขาสูง น้ำตก ทะเลสาบสีฟ้าใส และธารน้ำแข็งขนาดใหญ่

Icefields Parkway

ไฮไลต์ตลอดเส้นทาง Icefields Parkway

  • ธารน้ำแข็ง Columbia Icefield: หนึ่งในธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ สามารถนั่งรถหิมะ (Ice Explorer) หรือเดินขึ้น Skywalk ชมวิวธารน้ำแข็งอย่างใกล้ชิด
  • ทะเลสาบ Peyto Lake และ Bow Lake: ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ที่โด่งดัง มีจุดชมวิวสวยงามพร้อมทางเดินที่สะดวก
  • น้ำตก Sunwapta Falls และ Athabasca Falls: น้ำตกที่มีความงดงามและพลังธรรมชาติที่น่าประทับใจ
  • ป่าไม้และสัตว์ป่า: ตลอดเส้นทางมีโอกาสเห็นสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น กวางมูส แกะภูเขา และนกหลากหลายสายพันธุ์
Columbia Icefield canada
Peyto Lake
Athabasca Falls
Sunwapta Falls

ทำไมต้องเลือก Icefields Parkway?

  • เป็นเส้นทางที่รวมความงดงามของธรรมชาติแบบครบเครื่องในแคนาดา
  • มีจุดแวะพักชมวิวและถ่ายรูปมากมาย
  • เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ชอบขับรถชมวิว หรือทัวร์ที่จัดโปรแกรมเน้นธรรมชาติและการผจญภัย

Icefields Parkway คือเส้นทางที่ใครมาเที่ยว Alberta ต้องห้ามพลาด เพราะเป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความประทับใจทั้งภาพและใจ
ทัวร์รักนะแคนาดาพร้อมดูแลคุณตลอดเส้นทางให้เที่ยวอย่างปลอดภัยและสนุกสุดๆ ครับ!

ทิปจากแอดมินรักนะแคนาดา

“ขับรถช้าๆ และเตรียมน้ำดื่มพร้อมอาหารว่าง เพราะจุดพักแต่ละที่สวยมากจนคุณอยากหยุดถ่ายรูปตลอดทาง และอย่าลืมเช็คสภาพอากาศก่อนเดินทางเพราะฤดูหนาวอาจมีหิมะปกคลุม!”

“ทัวร์รักนะแคนาดา” พร้อมจัดทริปชมวาฬแบบ tailor-made ให้เหมาะกับสไตล์ของคุณ
ไปกับคนไทย เข้าใจภาษา วางแผนง่าย ดูแลดี มีไกด์พาเที่ยวเก็บภาพให้ฟรี พร้อมแนะนำจุดกิน จุดแวะ จุดถ่ายรูปครบ!

สอบถามหรือจองทัวร์ LINE : @lovecanada หรือคลิกที่ลิ้งค์นี้ > https://lin.ee/ngoQmSm3
โทรสอบถาม 098-4987-5484 หรือ 093-581-9542
โปรแกรมเที่ยวของ ทัวร์รักนะแคนาดา

#ทัวร์รักนะแคนาดา #เที่ยวแคนาดา #ทริปส่วนตัว #แคนาดา