Menu
ซัมเมอร์_แคนาดา

เปิดลิสต์ 8 สถานที่เที่ยวแคนาดา ช่วงซัมเมอร์

Summer in Canada! 🇨🇦 เปิดลิสต์ 8 สถานที่เที่ยวแคนาดาสำหรับซัมเมอร์นี้ ช่วง Summer ในแคนาดา
(จะเป็นช่วงราวๆประมาณเดือนมิถุนายน – สิงหาคม) เป็นเวลาที่เหมาะมากสำหรับการท่องเที่ยว เพราะอากาศอบอุ่น กิจกรรมกลางแจ้งเยอะและธรรมชาติสวยงามมาก ทัวร์รักนะแคนาดาของเราเลยไม่อยากให้ลูกทัวร์ทุกท่านพลาดชมความสวยงามของซํมเมอร์นี้รอบนี้ และนี่จึงเป็นการแนะนำสถานที่เที่ยวช่วงซัมเมอร์ในแคนาดา ที่อยากจะแนะนำครับ…

อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park)

อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park)

อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ (Banff National Park) ก่อตั้งขึ้นในปี 1885 เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของแคนาดา และแห่งที่ 3 ของโลก
มีพื้นที่กว่า 6,641 ตารางกิโลเมตร คือหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่เก่าแก่ที่สุดและโด่งดังที่สุดของแคนาดา ตั้งอยู่ในรัฐ แอลเบอร์ตา (Alberta) และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาร็อกกี้ (Rocky Mountains) โดยอยู่ห่างจากเมืองคัลการี (Calgary) ประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์ ครอบคลุมภูเขาหิมะ ธารน้ำแข็ง ทะเลสาบสีฟ้า ทุ่งหญ้าและป่าไม้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ร่วมกับอุทยานอื่นใน Canadian Rocky Mountain Parks ต่อไปนี้คือสถานที่แนะนำที่ไม่ควรพลาด…

Moraine_Lake_
Canada; Banff National Park; Moraine Lake

ทะเลสาบและธรรมชาติ

  • Lake Louise: ทะเลสาบสีฟ้าครามที่มีชื่อเสียงระดับโลก ล้อมรอบด้วยภูเขาและธารน้ำแข็ง วิวที่นี่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ พายเรือแคนู หรือเดินป่าไปยัง Lake Agnes Tea House หรือเส้นทาง Plains of Six Glaciers
  • Moraine Lake: ทะเลสาบสีฟ้าสดใสที่ล้อมรอบด้วยยอดเขา Ten Peaks เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายภาพยอดนิยมของแคนาดา ​
  • Peyto Lake: ทะเลสาบรูปทรงคล้ายหัวหมาป่า มองเห็นวิวจากจุดชมวิวที่เข้าถึงได้ง่าย
Several trees in front of a cliff in the Banff and Jasper National Parks

เส้นทางเดินป่าและกิจกรรมกลางแจ้ง

  • Johnston Canyon: เส้นทางเดินป่าผ่านสะพานแขวนและน้ำตกที่สวยงาม เหมาะสำหรับทุกวัย ​
  • Sulphur Mountain Gondola: นั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขา Sulphur เพื่อชมวิวพาโนรามาของเทือกเขาร็อกกี้และเมืองแบมฟ์ ​
  • Bow Valley Parkway: เส้นทางขับรถชมวิวที่สวยงาม พร้อมโอกาสพบสัตว์ป่า เช่น กวางและหมี
Cave and Basin National Historic Site

ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

  • Cave and Basin National Historic Site: สถานที่กำเนิดของระบบอุทยานแห่งชาติแคนาดา มีบ่อน้ำพุร้อนและนิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ​
  • Banff Park Museum: พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่จัดแสดงสัตว์และพืชท้องถิ่น ​
Lake Louise Ski Resort

ผ่อนคลายและกิจกรรมอื่น

  • Banff Upper Hot Springs: แช่น้ำพุร้อนธรรมชาติพร้อมชมวิวภูเขา เหมาะสำหรับการผ่อนคลายหลังจากกิจกรรมกลางแจ้ง ​
  • กิจกรรมฤดูหนาว: ในฤดูหนาว สามารถเล่นสกีที่ Lake Louise Ski Resort หรือเพลิดเพลินกับการเดินป่าบนหิมะและชมดาวในยามค่ำคืน

เมืองเชอร์ชิล มานิโทบา Churchill (Manitoba)

เมืองเชอร์ชิลล์ (Churchill) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐแมนิโทบา ประเทศแคนาดา บนชายฝั่งอ่าวฮัดสัน เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติอาร์กติกอย่างใกล้ชิด เมืองนี้มีประชากรประมาณ 850 คน แต่มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะ “เมืองหลวงของหมีขั้วโลก” และเป็นสถานที่ชมปรากฏการณ์แสงเหนือที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมแนะนำในเชอร์ชิลล์

1. ชมฝูงหมีขั้วโลก (Polar Bear Viewing)

ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม–พฤศจิกายน) หมีขั้วโลกจะอพยพมายังชายฝั่งเพื่อรอทะเลน้ำแข็ง ทำให้เชอร์ชิลล์เป็นจุดชมฝูงหมีที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถ Tundra Buggy ที่ออกแบบพิเศษเพื่อชมและถ่ายภาพหมีอย่างปลอดภัย ​Condé Nast Traveler+1Time+1

2. พายเรือคายัคหรือดำน้ำกับวาฬเบลูกา (Beluga Whale Watching)

ในฤดูร้อน (กรกฎาคม–สิงหาคม) วาฬเบลูกากว่า 60,000 ตัวจะว่ายเข้ามาในแม่น้ำเชอร์ชิลล์และอ่าวฮัดสัน นักท่องเที่ยวสามารถพายเรือคายัคหรือดำน้ำตื้นเพื่อสัมผัสประสบการณ์ใกล้ชิดกับวาฬเหล่านี้ ​Churchill Polar Bears

3. ชมแสงเหนือ (Northern Lights)

เชอร์ชิลล์ตั้งอยู่ใต้แนวออโรราโอวัล ทำให้สามารถชมแสงเหนือได้มากกว่า 300 คืนต่อปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว (กุมภาพันธ์–มีนาคม) ​Time

4. พิพิธภัณฑ์ Itsanitaq Museum

พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงวัตถุโบราณของวัฒนธรรมอินูอิต เช่น เครื่องมือหิน กระดูกวาฬ และงานแกะสลักจากงาช้าง รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์อาร์กติก ​Wikipedia

5. ซากเครื่องบิน Miss Piggy และเรืออับปาง Ithaca

สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์และการถ่ายภาพ ซากเครื่องบินและเรือเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่น่าสนใจ ​

6. กิจกรรมอื่น ๆ

  • สุนัขลากเลื่อน (Dogsledding): สัมผัสประสบการณ์การเดินทางแบบดั้งเดิมของชาวอาร์กติก
  • การเล่นเคอร์ลิงและสเก็ตน้ำแข็ง: กิจกรรมยอดนิยมในฤดูหนาว
  • การเดินป่าและดูนก: พื้นที่รอบเมืองมีความหลากหลายทางชีวภาพ เหมาะสำหรับการสำรวจธรรมชาติ

ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเที่ยวเชอร์ชิลล์

  • ฤดูร้อน (กรกฎาคม–สิงหาคม): ชมวาฬเบลูกาและกิจกรรมกลางแจ้ง
  • ฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม–พฤศจิกายน): ชมฝูงหมีขั้วโลก
  • ฤดูหนาว (กุมภาพันธ์–มีนาคม): ชมแสงเหนือและกิจกรรมฤดูหนาว

อุทยานแห่งชาติแจสเปอร์ (Jasper National Park)

อุทยานแห่งชาติแจสเปอร์ (Jasper National Park) ตั้งอยู่ในรัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา เป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในเทือกเขาร็อกกี้ของแคนาดา มีชื่อเสียงด้านธรรมชาติที่งดงามและกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลาย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยและการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ​

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในอุทยานแห่งชาติแจสเปอร์

1. Maligne Lake & Spirit Island

ทะเลสาบ Maligne มีน้ำสีฟ้าใสและล้อมรอบด้วยภูเขาสูง สามารถล่องเรือไปยังเกาะ Spirit Island ซึ่งเป็นจุดถ่ายภาพที่มีชื่อเสียง​

2. Athabasca Falls

น้ำตก Athabasca มีพลังน้ำที่แรงและสวยงาม มีเส้นทางเดินชมวิวที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับทุกวัย​

3. Columbia Icefield & Athabasca Glacier

ธารน้ำแข็ง Athabasca เป็นส่วนหนึ่งของ Columbia Icefield สามารถนั่งรถ Ice Explorer ขึ้นไปบนธารน้ำแข็งหรือเดินบน Skywalk ที่มีพื้นกระจกชมวิวหุบเขา Sunwapta ได้​

4. Mount Edith Cavell & Cavell Meadows

ภูเขา Mount Edith Cavell มีทิวทัศน์ที่งดงามและมีเส้นทางเดินป่า Cavell Meadows ที่สามารถชมดอกไม้ป่าและธารน้ำแข็ง Angel ได้​Authentik Canada

5. Sunwapta Falls

น้ำตก Sunwapta มีสองชั้นและมีเส้นทางเดินป่าที่นำไปสู่จุดชมวิวที่สวยงาม​

6. Jasper SkyTram

กระเช้า Jasper SkyTram พาขึ้นสู่ยอดเขา Whistlers Mountain เพื่อชมวิวพาโนรามาของอุทยานและเทือกเขาร็อกกี้​

7. Miette Hot Springs

บ่อน้ำพุร้อน Miette เป็นสถานที่ผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ เปิดให้บริการในช่วงฤดูร้อน​

ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเที่ยว

  • ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม–พฤษภาคม): อากาศเริ่มอุ่นขึ้น เหมาะสำหรับการเดินป่าและชมดอกไม้ป่า​
  • ฤดูร้อน (มิถุนายน–สิงหาคม): เป็นช่วงที่อากาศอบอุ่นที่สุด เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่า ล่องเรือ และชมสัตว์ป่า​
  • ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน–พฤศจิกายน): ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม และนักท่องเที่ยวน้อยลง​
  • ฤดูหนาว (ธันวาคม–กุมภาพันธ์): เหมาะสำหรับกิจกรรมฤดูหนาว เช่น สกีและการชมแสงเหนือ

มอลทรีออล และ เมืองคิวเบก (Montreal & Quebec City)

มอนทรีออล (Montreal) และ เมืองคิวเบก (Quebec City) เป็นเมืองเก่าแก่ในรัฐควิเบก (Quebec) ประเทศแคนาดา ที่มีเสน่ห์แบบยุโรปผสมผสานกับความทันสมัย หากคุณอยากสัมผัสกลิ่นอายฝรั่งเศสโดยไม่ต้องไปไกลถึงยุโรป

Montreal – เมืองแห่งศิลปะ วัฒนธรรม และชีวิตชีวา

สถานที่แนะนำ:

1. Old Montreal (Vieux-Montréal)

  • เขตเมืองเก่าริมแม่น้ำ St. Lawrence เต็มไปด้วยอาคารหินสไตล์ยุโรป ร้านอาหาร และร้านกาแฟ
  • ห้ามพลาด: Notre-Dame Basilica โบสถ์สวยงามอลังการ

2. Mount Royal (Parc du Mont-Royal)

  • สวนสาธารณะใหญ่บนเนินเขา ใจกลางเมือง
  • วิวพาโนรามาของเมืองมอนทรีออลจาก Kondiaronk Belvedere

3. Jean-Talon Market

  • ตลาดท้องถิ่นที่ขายผักผลไม้ ขนมปัง เนื้อ และชีสชื่อดังของควิเบก

4. Plateau Mont-Royal

  • ย่านศิลปินเต็มไปด้วยบ้านสีสันสดใส คาเฟ่ และสตรีทอาร์ต

5. Biodome, Planetarium และ Botanical Garden

  • เหมาะกับครอบครัวและผู้ที่สนใจธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม

Quebec City – เมืองที่เหมือนหลุดจากเทพนิยาย

สถานที่แนะนำ:

1. Old Quebec (Vieux-Québec)

  • เมืองเก่าแห่งเดียวในอเมริกาเหนือที่ยังมีป้อมปราการล้อมรอบ
  • ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO
  • ห้ามพลาด: ถนน Petit Champlain และ Place Royale

2. Château Frontenac

  • โรงแรมหรูที่เป็นไอคอนของเมือง วิวริมแม่น้ำสุดโรแมนติก
  • คุณสามารถเข้าไปจิบชาหรือถ่ายรูปสวย ๆ ได้แม้ไม่ได้เข้าพัก

3. Terrasse Dufferin

  • ทางเดินชมวิวริมผาสุดโรแมนติก เห็นแม่น้ำ St. Lawrence และ Château Frontenac

4. Montmorency Falls

  • น้ำตกที่สูงกว่าไนแองการา! ตั้งอยู่นอกเมืองเล็กน้อย
  • สามารถเดินบนสะพานแขวน หรือขึ้นกระเช้าได้

5. Parc de la Chute-Montmorency

  • สวนสาธารณะพร้อมเส้นทางเดินชมธรรมชาติรอบ ๆ น้ำตก

เที่ยวช่วงไหนดี?

  • ฤดูร้อน (มิ.ย.–ส.ค.): อากาศอบอุ่น เหมาะสำหรับเดินเล่น ชมเมือง เทศกาลดนตรีและอาหารเยอะมาก
  • ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.–ต.ค.): ใบไม้เปลี่ยนสีสุดโรแมนติก วิวเมืองจะสวยเป็นพิเศษ
  • ฤดูหนาว (ธ.ค.–ก.พ.): เมืองทั้งสองจะกลายเป็นเมืองหิมะ สวยเหมือนเทพนิยาย (โดยเฉพาะ Quebec City ที่มี Winter Carnival ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก)
  • ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.–พ.ค.): ดอกไม้เริ่มบาน เมืองเริ่มคึกคัก

น้ำตกไนแองการ่า (Niagara Falls)

น้ำตกไนแองการ่า (Niagara Falls) คือหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ตั้งอยู่บริเวณพรมแดนระหว่างประเทศแคนาดา (รัฐออนแทรีโอ) กับสหรัฐอเมริกา (รัฐนิวยอร์ก) โดยฝั่งที่คนนิยมไปชมมากที่สุดคือ ฝั่งแคนาดา เพราะสามารถมองเห็นมุมกว้างของน้ำตกทั้งหมดได้ชัดเจนและอลังการที่สุด

จุดเด่นของน้ำตกไนแองการ่า

น้ำตกไนแองการ่าประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก:

  1. Horseshoe Falls (ฝั่งแคนาดา) – ใหญ่ที่สุดและสวยที่สุด
  2. American Falls (ฝั่งสหรัฐ) – สูงแต่ไม่กว้างเท่า
  3. Bridal Veil Falls – เล็กสุด แต่ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว

สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมแนะนำฝั่งแคนาดา

1. Journey Behind the Falls

  • เดินผ่านอุโมงค์เข้าไปอยู่ด้านหลังของน้ำตก Horseshoe!
  • จะได้ยินเสียงน้ำถล่มลงมาใกล้มาก และมีจุดชมวิวใต้ละอองน้ำ

2. Hornblower Niagara Cruise (เรือชมใกล้น้ำตก)

  • ล่องเรือเข้าใกล้น้ำตกจนเปียกโชก! (มีเสื้อกันฝนแจก)
  • ไฮไลต์สำหรับคนที่อยากสัมผัสพลังธรรมชาติแบบใกล้สุดๆ

3. Niagara SkyWheel

  • ชิงช้าสวรรค์สูงเกือบ 53 เมตร มองเห็นวิวเมืองและน้ำตกแบบพาโนรามา

4. Clifton Hill

  • ถนนสายท่องเที่ยวสนุกสนาน มีเกม เครื่องเล่น พิพิธภัณฑ์ บ้านผีสิง ฯลฯ
  • เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่

5. Skylon Tower

  • หอคอยสูง 236 เมตร มีทั้งร้านอาหารหมุนและจุดชมวิว 360°
  • เหมาะสำหรับมื้อเย็นพร้อมชมพระอาทิตย์ตก

6. Niagara Parks Botanical Gardens & Butterfly Conservatory

  • สวนพฤกษศาสตร์สวยงาม และโดมผีเสื้อกว่า 2,000 ตัว บินรอบตัวคุณ

7. Fireworks & Illumination

  • ทุกคืน (โดยเฉพาะหน้าร้อน) จะมีการเปิดไฟส่องน้ำตกหลากสี และจุดพลุสวยงาม

เที่ยวเมื่อไรดี?

  • ฤดูร้อน (มิ.ย.–ก.ย.): อากาศดี มีกิจกรรมกลางแจ้ง เรือ Hornblower วิ่งเต็มรูปแบบ
  • ฤดูใบไม้ร่วง (ต.ค.): ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามมาก
  • ฤดูหนาว (ธ.ค.–ก.พ.): น้ำตกมีน้ำแข็งเกาะบางส่วน งดงามเหมือนอยู่ในโลกนิทาน
  • ฤดูใบไม้ผลิ (เม.ย.–พ.ค.): น้ำตกมีปริมาณน้ำมากที่สุดจากหิมะที่ละลาย

โทรอนโต (Toronto)

โทรอนโต (Toronto) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา และเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจ ศิลปะ และวัฒนธรรม มีทั้งตึกสูงระฟ้า ย่านศิลปะสุดชิค ไปจนถึงตลาดพื้นเมืองและริมทะเลสาบให้เดินชิล ๆ เรียกได้ว่า “ครบเครื่องทุกสไตล์ในเมืองเดียว”

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำใน Toronto

1. CN Tower

  • แลนด์มาร์กประจำเมือง สูง 553 เมตร
  • สามารถขึ้นไปชมวิว 360 องศา หรือท้าทายความกล้ากับ EdgeWalk เดินรอบนอกหอคอย (มีสายรัดนิรภัย)

2. Ripley’s Aquarium of Canada

  • พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำใกล้ CN Tower เหมาะกับทุกวัย
  • ไฮไลต์: อุโมงค์ใต้น้ำขนาดใหญ่ มีฉลามและกระเบนว่ายอยู่เหนือหัว

3. Royal Ontario Museum (ROM)

  • พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ ศิลปะ และประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่
  • ตัวอาคารดีไซน์แปลกตา เหมาะกับคนรักศิลปะและวัฒนธรรม

4. Distillery District

  • ย่านเก่าโรงกลั่นวิสกี้ที่ดัดแปลงเป็นโซนชิค ๆ เต็มไปด้วยแกลเลอรี ร้านกาแฟ บูติก และร้านอาหาร
  • ถนนหินโบราณและสถาปัตยกรรมยุควิกตอเรียน สวยมากสำหรับถ่ายรูป

5. Kensington Market & Chinatown

  • ย่านตลาดสุดฮิป มีสินค้าทำมือ เสื้อผ้าแนววินเทจ และร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ
  • รวมถึงร้านอาหารเอเชียอร่อยๆ ในไชน่าทาวน์ที่อยู่ติดกัน

6. St. Lawrence Market

  • ตลาดสดที่ติดอันดับต้น ๆ ของโลก ขายทั้งอาหารพื้นเมือง ของฝาก และเบเกอรี
  • ห้ามพลาด: Peameal Bacon Sandwich เมนูขึ้นชื่อของที่นี่

7. Toronto Islands

  • เกาะเล็กๆ กลางทะเลสาบ Ontario ที่นั่งเรือข้ามไปแค่ ~15 นาที
  • มีชายหาด สวนสาธารณะ และจุดถ่ายรูปเมืองจากมุมไกลที่สวยสุด ๆ

จุดชมวิว / ถ่ายรูปสวย

  • Polson Pier: วิวเมืองโทรอนโตกับ CN Tower อยู่บนเส้นขอบฟ้า
  • Graffiti Alley: ผนังศิลปะสตรีทสุดเท่
  • University of Toronto (St. George Campus): สถาปัตยกรรมคลาสสิกสไตล์อังกฤษ

เที่ยวช่วงไหนดี?

  • ฤดูใบไม้ผลิ (เม.ย.–พ.ค.): ดอกไม้บาน อากาศเย็นสบาย คนไม่พลุกพล่าน
  • ฤดูร้อน (มิ.ย.–ส.ค.): มีกิจกรรมกลางแจ้ง เทศกาล ดนตรี ตลาดนัด และอีเวนต์เยอะมาก!
  • ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.–ต.ค.): ใบไม้เปลี่ยนสี บรรยากาศโรแมนติกสุด ๆ
  • ฤดูหนาว (พ.ย.–ก.พ.): มีกิจกรรมสเก็ตน้ำแข็ง ไฟประดับ และตลาดคริสต์มาส

แวนคูเวอร์และวิกตอเรีย BC (Vancouver & Victoria (British Columbia)

แวนคูเวอร์ (Vancouver) และ วิคตอเรีย (Victoria) เป็นสองเมืองที่งดงามและน่าเที่ยวที่สุดของแคนาดาฝั่งตะวันตก อยู่ในรัฐบริติชโคลัมเบีย (British Columbia) ที่ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติ ป่าเขา ชายฝั่งทะเล และสถาปัตยกรรมสุดโรแมนติก ใครที่รักทั้ง “เมืองและธรรมชาติ” ต้องไม่พลาดสองเมืองนี้!

Vancouver – เมืองติดทะเลที่มีภูเขาโอบล้อม

📌 สถานที่แนะนำ:

1. Stanley Park

  • สวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีเส้นทางเดิน/จักรยานรอบทะเล (Seawall) วิวสวยมาก
  • จุดเด่น: Totem Poles, Lost Lagoon, Vancouver Aquarium

2. Granville Island

  • ตลาดอาหารสด แฮนด์เมดงานศิลปะ คาเฟ่ และวิวริมท่าเรือ
  • ห้ามพลาด: Public Market และจิบกาแฟชมเรือยอร์ชเพลิน ๆ

3. Capilano Suspension Bridge

  • สะพานแขวนยาวข้ามแม่น้ำกลางป่า ซี๊ดดดดแต่ปลอดภัย!
  • มีเส้นทาง TreeTop Adventure และ Cliffwalk ให้ตื่นเต้นอีกด้วย

4. Gastown

  • ย่านเมืองเก่าสุดคลาสสิก มี Steam Clock นาฬิกาไอน้ำที่เป่าควันทุก 15 นาที
  • เต็มไปด้วยร้านอาหารและบาร์บรรยากาศดี

5. Canada Place

  • ท่าเรือริมทะเล จุดขึ้นเรือเที่ยว หรือเดินชิลชมวิวภูเขา
  • จุดถ่ายรูปยอดนิยม: หลังคาทรงใบเรือและวิว CN Rail

Victoria – เมืองหลวงของ BC บนเกาะ Vancouver Island

สถานที่แนะนำ:

1. Butchart Gardens

  • สวนดอกไม้ระดับโลก มีหลายโซน (อิตาลี ญี่ปุ่น สวนกุหลาบ ฯลฯ)
  • เปิดตลอดปี ดอกไม้ผลัดเปลี่ยนตามฤดูกาล

2. Inner Harbour

  • จุดศูนย์กลางของเมือง มี Parliament Buildings และโรงแรม Fairmont Empress
  • วิวสวย โรแมนติก น่าเดินทั้งกลางวันและกลางคืน

3. Royal BC Museum

  • พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และชนพื้นเมือง
  • เหมาะกับครอบครัวหรือคนชอบเรื่องราวของแคนาดา

4. Craigdarroch Castle

  • คฤหาสน์เก่าแบบวิคตอเรียน สร้างโดยตระกูลเศรษฐีสมัยศตวรรษที่ 19
  • เปิดให้เข้าชมภายใน สวยมากเหมือนย้อนยุคยุโรป

5. Fisherman’s Wharf

  • ท่าเรือสีสันสดใส มีบ้านลอยน้ำ ร้านขายอาหารทะเลสด และเรือชมแมวน้ำ

ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเที่ยว

  • ฤดูใบไม้ผลิ–ฤดูร้อน (เม.ย.–ก.ย.): ดอกไม้บาน อากาศดีสุด! เที่ยวได้ทุกจุดแบบไม่มีหิมะ
  • ฤดูใบไม้ร่วง (ต.ค.): ใบไม้เปลี่ยนสี บรรยากาศโรแมนติก
  • ฤดูหนาว (พ.ย.–มี.ค.): มีหิมะบนเขา แต่ในเมืองไม่หนาวจัด เหมาะสำหรับสกีที่ Whistler (จาก Vancouver ~2 ชม.)

ยูคอนและนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์

ดินแดนยูคอน (Yukon) และนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ (Northwest Territories) คือสองภูมิภาคทางตอนเหนือของแคนาดา ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสุดอลังการ ท้องฟ้าเปิดกว้าง และประสบการณ์เหนือจินตนาการ เช่น แสงเหนือ (Aurora Borealis) ภูเขาน้ำแข็ง แม่น้ำสายยาว และวัฒนธรรมพื้นเมืองของชาว First Nations และ Inuit

Yukon Territory – ดินแดนแห่งการผจญภัย

📌 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ:

1. Whitehorse (เมืองหลวงของยูคอน)

  • เมืองเล็กแต่น่ารัก มีทั้งร้านกาแฟ พิพิธภัณฑ์ และจุดชมแสงเหนือ
  • สถานที่น่าสนใจ:
    • SS Klondike: เรือกลไฟประวัติศาสตร์
    • Takhini Hot Springs: ออนเซ็นธรรมชาติแช่ท่ามกลางหิมะ
    • Yukon Wildlife Preserve: ดูสัตว์ป่าแคนาดาอย่างกวางมูซ คาริบู

2. Kluane National Park

  • เป็นที่ตั้งของภูเขาสูงที่สุดในแคนาดา (Mount Logan)
  • เส้นทางเดินป่าสุดตระการตา ธารน้ำแข็ง และทะเลสาบสะท้อนฟ้า
  • ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจาก UNESCO

3. Dawson City

  • เมืองทองคำแห่ง Klondike Gold Rush ยุคคาวบอยยังมีชีวิต
  • อาคารไม้สไตล์ยุคศตวรรษที่ 19 มีโรงละครและคาสิโนสมัยก่อน
  • สายผจญภัยต้องลองเครื่องดื่ม “Sourtoe Cocktail” ที่ใส่นิ้วเท้าแห้งมนุษย์! (จริงจัง 555)

Northwest Territories – ดินแดนแห่งแสงเหนือและความเงียบสงบ

สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ:

1. Yellowknife (เมืองหลวงของ NWT)

  • หนึ่งใน จุดชมแสงเหนือที่ดีที่สุดในโลก
  • เหมาะสำหรับการเที่ยวฤดูหนาว – มีทัวร์ดู Aurora พร้อมเต็นท์อุ่น ๆ และบ่อไฟ
  • จุดเที่ยวเพิ่มเติม:
    • Old Town & Bush Pilots Monument
    • Ice Road & Ice Castle (เฉพาะหน้าหนาว)
    • Prince of Wales Northern Heritage Centre

2. Nahanni National Park Reserve (มรดกโลก UNESCO)

  • จุดเด่นคือ Virginia Falls น้ำตกสูงกว่าน้ำตกไนแองการ่าเกือบสองเท่า
  • มีแม่น้ำให้ล่องเรือแคนู ผ่านแคนยอน ธารน้ำพุร้อน และหน้าผาหินสุดอลังการ

3. Great Slave Lake

  • ทะเลสาบใหญ่อันดับ 2 ของแคนาดา
  • กิจกรรมหน้าหนาว: ตกปลาใต้พื้นน้ำแข็ง, ขับสโนว์โมบิล, หรือ ice fishing

ไปเที่ยวช่วงไหนดี?

  • ฤดูหนาว (พ.ย.–มี.ค.): เหมาะกับดูแสงเหนือ ตกปลาน้ำแข็ง แช่น้ำพุร้อน
  • ฤดูร้อน (มิ.ย.–ส.ค.): แสงแดดเกือบ 24 ชั่วโมง เที่ยวธรรมชาติได้เต็มที่ (midnight sun)
  • ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.): ใบไม้เปลี่ยนสี บรรยากาศสงบ เหมาะกับเดินป่า

เหมาะกับใคร?

  • คนที่อยากสัมผัสธรรมชาติแท้ ๆ ไม่ปรุงแต่ง
  • นักล่าแสงเหนือ
  • สายโรแมนติกและสายผจญภัย
  • ช่างภาพธรรมชาติ หรือคนชอบถ่ายดาว ถ่ายภูเขา

สอบถามหรือจองทัวร์ LINE : @lovecanada หรือคลิกที่ลิ้งค์นี้ > https://lin.ee/ngoQmSm3
☎️โทรสอบถาม 098-4987-5484 หรือ 093-581-9542
.
#กินหรู#นอนดี#ไม่เหนื่อย ต้องที่ ทัวร์รักนะแคนาดา เท่านั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *