หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสุดตระการตา เมืองที่มีเสน่ห์ และผู้คนที่เป็นมิตร “แคนาดา” คือหนึ่งในประเทศที่ควรค่าแก่การเดินทางไปเยือนสักครั้งในชีวิต
แคนาดาไม่ได้มีดีแค่ความหนาวหรือแสงเหนือ แต่เป็นประเทศที่หลากหลายทั้งในด้านภูมิประเทศ ผู้คน และวัฒนธรรม ไม่ว่าจะเป็นการชมอุทยานแห่งชาติที่สวยติดอันดับโลก การเดินเล่นในเมืองศิลปะอย่างมอนทรีออล หรือการชิมอาหารท้องถิ่นที่หลากหลายจากหลายเชื้อชาติ ทุกสิ่งรวมกันทำให้ “เที่ยวแคนาดา” กลายเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืม
เที่ยวแคนาดา มีอะไรน่าเที่ยว?
แคนาดาเป็นประเทศที่มีอุทยานแห่งชาติมากกว่า 40 แห่ง มีทั้งภูเขา ทะเลสาบ ธารน้ำแข็ง และป่าไม้ที่สมบูรณ์แบบ หากคุณชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่า ล่องเรือ พายแคนู หรือสกี ฤดูกาลต่าง ๆ ในแคนาดาจะมีอะไรให้คุณทำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น Banff, Jasper, หรือ Niagara Falls ล้วนเป็นจุดหมายยอดนิยมระดับโลก สามารถใช้คำว่า “เป็นประเทศที่มีธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่และงดงาม” เลยก็ว่าได้

เมืองหลากสไตล์ เต็มไปด้วยวัฒนธรรม
แต่ละเมืองของแคนาดามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น
แวนคูเวอร์ (Vancouver) เมืองแห่งธรรมชาติ ศิลปะ และชีวิตที่ลงตัว
เมืองทันสมัยริมทะเล มีทั้งธรรมชาติและความเป็นเมืองในที่เดียว คนไทยและลูกทัวร์นะรักนะแคนาดามักสอบถามเข้ามาถึงทริปของเมืองนี้เป็นจำนวนมาก แวนคูเวอร์ (Vancouver) คือเมืองใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศแคนาดา ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศ ในรัฐบริติชโคลัมเบีย (British Columbia) มีภูเขา ทะเล ป่าไม้ และเมืองที่ทันสมัยรวมอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว จนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน “เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก” มาโดยตลอด

- สถานที่เที่ยวใน แวนคูเวอร์ (Vancouver)
- Stanley Park : สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมือง มีเส้นทางเดินและขี่จักรยานริมทะเลกว่า 9 กิโลเมตร รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่และวิวทะเลสาบ เหมาะสำหรับการพักผ่อน ปิกนิก หรือชมพระอาทิตย์ตก
- Capilano Suspension Bridge : สะพานแขวนยาว 137 เมตรเหนือแม่น้ำลึกที่ล้อมด้วยป่าดิบเขียวขจี ตื่นเต้นเล็กน้อยแต่ปลอดภัย เหมาะกับสายผจญภัย และยังมีเส้นทางเดินบนยอดไม้ (Treetop Adventure) ให้ชมธรรมชาติจากมุมสูง
- Granville Island : เกาะเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยตลาดสด ร้านอาหาร ศิลปะ และแกลเลอรี่มากมาย เหมาะสำหรับคนชอบเดินเล่น ชิมของอร่อย และซื้อของฝากแนว local
- Canada Place & Vancouver Waterfront : แลนด์มาร์กริมอ่าวที่มีรูปทรงเป็นเรือใบ เป็นที่ตั้งของศูนย์การประชุม และท่าเรือสำหรับเรือสำราญ มีทางเดินชมวิวทะเล เห็นเทือกเขา North Shore อยู่ลิบ ๆ เหมาะกับการถ่ายรูปและชมวิว
- Grouse Mountain : ภูเขาที่อยู่ใกล้เมืองที่สุด นั่งกระเช้าขึ้นไปด้านบนเพื่อชมวิวเมืองจากมุมสูง ในฤดูหนาวสามารถเล่นสกี ส่วนหน้าร้อนก็มีกิจกรรมเดินเขา zipline และโชว์สัตว์ป่า
- Museum of Anthropology (MOA) : พิพิธภัณฑ์ที่แสดงเรื่องราวและศิลปวัตถุของชนพื้นเมืองในแคนาดา โดยเฉพาะกลุ่ม First Nations ที่มีรากเหง้าในภูมิภาคนี้
- แวนคูเวอร์เหมาะกับใคร?
- คนที่ชอบเมืองที่มีธรรมชาติอยู่รอบตัว
- คนที่อยากเที่ยวแบบผ่อนคลาย เดินเล่น ชิมอาหาร
- สายถ่ายรูปธรรมชาติและเมือง
- นักท่องเที่ยวที่ชอบอากาศเย็นสบาย (หน้าร้อนเย็น ๆ หน้าหนาวไม่หนาวจัด)
โตรอนโต (Toronto) หัวใจของแคนาดา เมืองใหญ่ที่มีครบทุกสไตล์
เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแคนาดา และเป็นเมืองหลวงของรัฐออนแทรีโอ (Ontario) ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบออนแทรีโอ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน วัฒนธรรม และเทคโนโลยีของประเทศ มีประชากรกว่า 6 ล้านคน และมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมมากที่สุดเมืองหนึ่งในโลก โตรอนโตไม่ใช่แค่เมืองทันสมัยที่เต็มไปด้วยตึกสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา เที่ยวได้ทั้งแบบครอบครัว คู่รัก หรือกลุ่มเพื่อน มีทั้งธรรมชาติ ศิลปะ อาหาร และไลฟ์สไตล์ครบในที่เดียว #ทัวร์รักนะแคนาดา

- สถานที่เที่ยวใน โตรอนโต (Toronto)
- CN Tower : แลนด์มาร์กสำคัญของเมือง โดดเด่นด้วยความสูงกว่า 553 เมตร เคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก! ขึ้นไปชมวิว 360 องศา หรือถ้าใจกล้า ลอง “EdgeWalk” เดินรอบขอบหอคอยแบบไม่มีหน้าต่างกั้น
- Toronto Islands : หมู่เกาะเล็ก ๆ ริมฝั่งทะเลสาบออนแทรีโอ ใช้เวลานั่งเรือเฟอร์รี่แค่ 15 นาที เหมาะกับการปิกนิก ขี่จักรยาน หรือพักผ่อนริมชายหาดในฤดูร้อน
- Eaton Centre : ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางเมือง มีทั้งแบรนด์ดัง ร้านค้าแฟชั่น และร้านอาหารมากมาย ใกล้กับ Dundas Square ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของแสงสีและกิจกรรมกลางแจ้ง
- Royal Ontario Museum (ROM) : พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา จัดแสดงเรื่องประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ และศิลปะ มีของสะสมระดับโลกทั้งมัมมี่อียิปต์ ไดโนเสาร์ และวัตถุโบราณ
- Kensington Market & Chinatown : ย่านฮิป ๆ สำหรับคนชอบเดินเล่นชิล ๆ มีร้านเสื้อผ้าแฮนด์เมด คาเฟ่เก๋ ๆ อาหารนานาชาติ โดยเฉพาะอาหารเอเชีย และสตรีทอาร์ตที่เต็มไปด้วยสีสัน
- High Park : สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สุดในโตรอนโต เป็นที่ชมดอกซากุระบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ มีทะเลสาบเล็ก เส้นทางเดิน และกิจกรรมสำหรับครอบครัว
- Niagara Falls (ใกล้โตรอนโต) : แม้จะอยู่นอกเมือง แต่ Niagara Falls เป็นจุดหมายสำคัญที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมไปจากโตรอนโต เดินทางเพียง 1.5 ชั่วโมง ก็ได้สัมผัสน้ำตกยิ่งใหญ่ระดับโลกแล้ว!
- โตรอนโตเหมาะกับใคร?
- คนที่ชอบเมืองใหญ่ ทันสมัย มีความหลากหลาย
- นักชิมที่อยากลองอาหารจากทั่วโลกในที่เดียว
- ผู้ที่สนใจศิลปะ วัฒนธรรม และชอบช้อปปิ้ง
- ผู้ที่ต้องการเดินทางสะดวก เมืองมีรถไฟใต้ดินและระบบขนส่งครบครัน
มอนทรีออล (Montreal) เสน่ห์ยุโรปในแคนาดา เมืองที่พูดภาษาฝรั่งเศสกันเป็นหลัก
เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศแคนาดา รองจากโตรอนโต ตั้งอยู่ในรัฐควิเบก (Québec) ที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นทางการ จึงทำให้มอนทรีออลมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคล้ายเมืองในยุโรป ทั้งสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ นี่คือเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะ อาหารอร่อย เทศกาลตลอดทั้งปี และความงดงามของเมืองเก่า (Old Montreal) ที่ทำให้หลายคนหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่มา

- สถานที่เที่ยวใน มอนทรีออล (Montreal)
- Old Montreal (Vieux-Montréal) : ย่านเมืองเก่าสุดคลาสสิกที่เต็มไปด้วยถนนหิน อาคารศตวรรษที่ 17 และบรรยากาศแบบยุโรป คาเฟ่เล็ก ๆ ร้านเบเกอรี่ และแกลเลอรี่ศิลปะกระจายตัวอยู่ทั่ว ย่านนี้เหมาะสำหรับการเดินเล่นและถ่ายรูป
- Notre-Dame Basilica : โบสถ์สไตล์โกธิคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในแคนาดา ด้านในตกแต่งด้วยไม้แกะสลัก กระจกสี และเพดานสีน้ำเงินลึก เป็นสถานที่ที่สงบและน่าทึ่งมาก
- Mount Royal Park (Parc du Mont-Royal) : สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนภูเขารอยัล จุดชมวิวด้านบนจะมองเห็นเมืองมอนทรีออลทั้งเมือง เหมาะสำหรับเดินป่า ปิกนิก หรือชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง
- Montreal Museum of Fine Arts : พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเมือง รวบรวมงานศิลป์หลากหลายยุคและจากทั่วโลก เหมาะกับสายอาร์ตที่อยากดื่มด่ำกับวัฒนธรรมแคนาดาและนานาชาติ
- Underground City (RESO) : เมืองใต้ดินความยาวกว่า 30 กิโลเมตร เชื่อมต่อห้างสรรพสินค้า โรงแรม สถานีรถไฟ และสำนักงานต่าง ๆ เป็นที่เที่ยวช้อปปิ้งยอดนิยมโดยเฉพาะในฤดูหนาว
- เทศกาลน่ารักตลอดทั้งปี : มอนทรีออลเป็นเมืองแห่งงานเทศกาล ไม่ว่าจะเป็น Montreal Jazz Festival (เทศกาลดนตรีแจ๊สที่ใหญ่ที่สุดในโลก), Just for Laughs (เทศกาลตลก), เทศกาลศิลปะ, ไฟ, หรืออาหาร—แทบจะมีให้ดูตลอดปี
- มอนทรีออลเหมาะกับใคร?
- คนที่ชอบความโรแมนติก เมืองเก่า และบรรยากาศยุโรป
- นักชิมอาหารฝรั่งเศส เบเกอรี่ ชีส และไวน์
- สายอาร์ต สายวัฒนธรรม และคนรักเทศกาล
- คนที่อยากลองฟังหรือพูดภาษาฝรั่งเศสในแคนาดา
ควิเบกซิตี้ (Quebec City) เมืองเก่าที่เหมือนเดินในยุโรปแต่ใจกลางแคนาดา
เป็นเมืองหลวงของรัฐควิเบก และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่และมีเสน่ห์ที่สุดในแคนาดา เมืองนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ (St. Lawrence River) มีบรรยากาศสไตล์ยุโรปชัดเจน ทั้งถนนหิน ป้อมปราการ โบสถ์เก่า และอาคารสไตล์ฝรั่งเศสโบราณ ที่นี่เป็นเมืองเดียวในอเมริกาเหนือที่ยังคงมีกำแพงเมืองแบบเดิมหลงเหลืออยู่ และได้รับการยกย่องให้เป็น มรดกโลกโดย UNESCO อีกด้วย

- สถานที่เที่ยวใน ควิเบกซิตี้ (Quebec City)
- Château Frontenac : โรงแรมสุดหรูที่ตั้งอยู่บนเนินเขา มองเห็นวิวแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ เป็นแลนด์มาร์กอันดับหนึ่งของเมือง และขึ้นชื่อว่าเป็น โรงแรมที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในโลก
- Old Québec (Vieux-Québec) : ย่านเมืองเก่าที่มีกำแพงเมืองล้อมรอบ ถนนหิน อาคารสไตล์ฝรั่งเศส ร้านค้าเล็ก ๆ และคาเฟ่แสนอบอุ่น บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ในเมืองเล็ก ๆ ของยุโรปอย่างแท้จริง
- Funiculaire du Vieux-Québec : กระเช้าลากเล็ก ๆ ที่เชื่อมระหว่าง Upper Town กับ Lower Town ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีแต่ได้ชมวิวเมืองเก่าแบบพาโนรามา
- Citadelle of Québec : ป้อมปราการรูปดาวที่ยังใช้งานจริง เป็นที่ตั้งของฐานทัพและบ้านพักของผู้ว่าการรัฐ มีพิธีเปลี่ยนเวรยามแบบทหารให้ชมทุกวันในฤดูร้อน
- Notre-Dame de Québec Basilica-Cathedral : โบสถ์เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของแคนาดา สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1647 ภายในตกแต่งอย่างงดงามด้วยศิลปะแบบบาโรกและกระจกสี
- Winter Carnival (Le Carnaval de Québec) : เทศกาลฤดูหนาวที่ใหญ่ที่สุดในโลก! จัดขึ้นทุกปีช่วงมกราคม–กุมภาพันธ์ มีกิจกรรมสนุก ๆ เช่น การแกะสลักน้ำแข็ง พาเหรดหิมะ และตัวมาสคอตชื่อดัง “Bonhomme”
- ควิเบกซิตี้เหมาะกับใคร?
- คนที่ชอบบรรยากาศโรแมนติก และชอบถ่ายรูปเมืองเก่า
- คนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมยุโรป
- คนที่อยากสัมผัสวัฒนธรรมฝรั่งเศสในอเมริกาเหนือ
- นักเดินทางที่มองหาเมืองที่สงบ สวย และไม่วุ่นวาย
แคนาดากับระบบการท่องเที่ยวที่สะดวกและปลอดภัย
แคนาดาขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัย ระบบขนส่งสาธารณะดี ผู้คนเป็นมิตร ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสใช้ได้อย่างกว้างขวาง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ด้วยตัวเองหรือจะเลือกไปกับทัวร์ก็ยิ่งสะดวก หลายคนที่ยังไม่เคยมาแคนาดาอาจสงสัยว่า ประเทศใหญ่ขนาดนี้จะเดินทางสะดวกไหม? แล้วเรื่องความปลอดภัยล่ะ เป็นยังไงบ้าง?
คำตอบคือ… “แคนาดาเป็นประเทศที่ทั้งเที่ยวง่าย เดินทางสบาย และปลอดภัยมาก”
ไม่ว่าคุณจะมาเที่ยวคนเดียว มากับครอบครัว หรือมากับกรุ๊ปทัวร์ แคนาดาก็พร้อมต้อนรับคุณด้วยระบบที่เป็นมิตรสุด ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
ระบบขนส่งและสนามบินมาตรฐานโลก
- สนามบินทันสมัย: แคนาดามีสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ เช่น Toronto Pearson (YYZ), Vancouver International (YVR) และ Montreal-Trudeau (YUL) ที่ได้รับรางวัลระดับโลก มีระบบตรวจคนเข้าเมืองที่มีประสิทธิภาพ และป้ายบอกทางชัดเจน (ภาษาอังกฤษ+ฝรั่งเศส)
- วีซ่าและเอกสารเข้าเมือง: คนไทยสามารถยื่นขอ วีซ่าท่องเที่ยว (Visitor Visa) ได้ง่ายขึ้นในช่วงหลัง และเมื่อได้รับแล้วก็สามารถเข้า-ออกแคนาดาได้สะดวก ไม่ซับซ้อน
ระบบขนส่งสาธารณะสะดวก ใช้ง่าย แม้พูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง
- รถไฟฟ้าและเมโทร (ในเมืองใหญ่อย่างโตรอนโต แวนคูเวอร์ มอนทรีออล): มีระบบที่ตรงเวลา ปลอดภัย และสะอาด มีแอปแผนที่หรือ Google Maps ช่วยนำทางได้แบบเรียลไทม์
- รถบัสระหว่างเมือง เช่น Greyhound, Megabus หรือ VIA Rail: ให้บริการเชื่อมต่อเมืองหลักทั่วประเทศในราคาประหยัด
- บริการแชร์รถและแท็กซี่ เช่น Uber, Lyft หรือแท็กซี่แบบเรียกง่ายผ่านแอป
ความปลอดภัยอันดับต้น ๆ ของโลก
- แคนาดาถูกจัดให้เป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก โดยหลายสถาบัน (เช่น Global Peace Index)
- สังคมแคนาเดียนมีความเป็นมิตร เคารพสิทธิ และช่วยเหลือผู้มาเยือนได้ดีมาก
- อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยว
- มี ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในจุดสำคัญ เช่น สนามบิน สถานีรถไฟ หรือย่านท่องเที่ยว
โครงสร้างเมืองเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว
- เมืองใหญ่ของแคนาดาถูกออกแบบมาอย่างเป็นระบบ มีโซนท่องเที่ยวชัดเจน เดินเท้าได้ง่าย (เช่น Downtown Toronto, Old Montreal, Old Quebec)
- เมืองสะอาดมาก มีจุดพัก จุดถ่ายรูป จุดบริการนักท่องเที่ยวตลอดทาง
- ห้องน้ำสาธารณะสะอาดและปลอดภัย ในห้าง สถานี หรือจุดท่องเที่ยว
- มี ทางเดินคนพิการ และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงวัย/รถเข็น
เที่ยวแคนาดาช่วงไหนดี?
แคนาดาเป็นประเทศที่มีธรรมชาติหลากหลาย และเปลี่ยนโฉมตามฤดูกาลอย่างชัดเจน ทำให้ “ทุกฤดู” มีเสน่ห์ต่างกันไป แล้วจะไปเที่ยวช่วงไหนดีล่ะ? คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับสไตล์การเที่ยวของคุณ!
ฤดูใบไม้ผลิ (Spring)
ช่วงเวลา: มีนาคม – พฤษภาคม
อุณหภูมิ: 5°C – 15°C
ข้อดี:
- ดอกไม้เริ่มบานโดยเฉพาะทิวลิปและซากุระในบางพื้นที่ (เช่น แวนคูเวอร์, ออตตาวา)
- ผู้คนไม่พลุกพล่านเหมือนฤดูร้อน
- ราคาที่พักและตั๋วเครื่องบินมักถูกกว่า
เหมาะสำหรับ:
- คนที่ชอบอากาศเย็นสบาย
- สายถ่ายรูปดอกไม้
- นักท่องเที่ยวที่ต้องการเลี่ยงช่วงพีคซีซั่น
ฤดูร้อน (Summer)
ช่วงเวลา: มิถุนายน – สิงหาคม
อุณหภูมิ: 20°C – 30°C
ข้อดี:
- อากาศอบอุ่น กิจกรรมกลางแจ้งเพียบ เช่น เดินป่า ล่องเรือ ดูน้ำตกไนแองการา
- งานเทศกาลเยอะมาก (Jazz Festival, Canada Day, Calgary Stampede)
- ธรรมชาติสวยเขียวขจี
เหมาะสำหรับ:
- ครอบครัว นักเดินทางทั่วไป
- คนชอบกิจกรรมกลางแจ้ง หรือเที่ยวชมเมืองแบบเดินเยอะ ๆ
- นักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสสีสันของเมืองอย่างเต็มที่
ฤดูใบไม้ร่วง (Fall)
ช่วงเวลา: กันยายน – ตุลาคม
อุณหภูมิ: 10°C – 20°C
ข้อดี:
- ใบไม้เปลี่ยนสีสุดอลังการโดยเฉพาะใน Quebec, Ontario, Banff
- อากาศเย็นกำลังดี ไม่หนาวจัด
- คนน้อยลง เที่ยวได้สบายกว่า
เหมาะสำหรับ:
- คู่รัก โรแมนติกสายถ่ายรูป
- นักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสธรรมชาติแบบสีสันสุดอลังการ
- คนที่อยากเห็น “แคนาดาในโปสการ์ด” ของจริง!
ฤดูหนาว (Winter)
ช่วงเวลา: พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์
อุณหภูมิ: -5°C ถึง -25°C (แล้วแต่พื้นที่)
ข้อดี:
- หิมะขาวโพลน สวยเหมือนอยู่ในหนัง
- มีเทศกาลฤดูหนาว เช่น Quebec Winter Carnival, Christmas Market, Ice Skating
- เล่นสกี สโนว์บอร์ด สโนว์โมบิล ได้เต็มที่ใน Banff, Whistler, Tremblant
เหมาะสำหรับ:
- คนที่ไม่กลัวหนาว อยากลองสัมผัสอากาศติดลบ
- นักท่องเที่ยวที่อยากเล่นสกีหรือถ่ายรูปหิมะสวย ๆ
- คนที่อยากสัมผัส “แคนาดาในฤดูคริสต์มาส” ของจริง
สรุป: เลือกเที่ยวแคนาดาช่วงไหนดี?
สไตล์ | ช่วงแนะนำ | ไฮไลต์ |
---|---|---|
ชอบธรรมชาติ ดอกไม้ | เม.ย. – พ.ค. | ทิวลิปบาน / คนไม่เยอะ |
ชอบกิจกรรมคึกคัก | มิ.ย. – ส.ค. | เทศกาล / น้ำตก / ล่องเรือ |
สายโรแมนติก | ก.ย. – ต.ค. | ใบไม้เปลี่ยนสี |
สายหิมะ / สกี | ธ.ค. – ก.พ. | หิมะ / เทศกาลคริสต์มาส |
เที่ยวแคนาดาครั้งแรก ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
- วีซ่า: คนไทยต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวแคนาดา (Visitor Visa หรือ eTA หากบินผ่านประเทศอื่น)
- เอกสารเดินทาง: หนังสือเดินทางต้องมีอายุอย่างน้อย 6 เดือน
- เสื้อผ้า: ขึ้นอยู่กับฤดูกาลที่ไป ถ้าหนาวควรเตรียมเสื้อผ้าเฉพาะทางกันลม กันหนาว
- แผนการเดินทาง: วางแผนคร่าว ๆ ว่าจะไปเมืองไหน ทำกิจกรรมอะไร และจองที่พักล่วงหน้า
- เลือกทัวร์ที่เชี่ยวชาญ: สำหรับคนที่ไม่ถนัดวางแผนหรือไม่อยากจัดการเรื่องยาก ๆ การไปกับทัวร์ที่เข้าใจวัฒนธรรมคนไทยและรู้จักแคนาดาเป็นอย่างดี เช่น “รักนะแคนาดา” จะช่วยให้การเดินทางราบรื่นและสนุกยิ่งขึ้น
สรุปการเที่ยวแคนาดา
เที่ยวแคนาดา ไม่ใช่แค่การไปประเทศหนึ่ง แต่เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับธรรมชาติ ผู้คน วัฒนธรรม และความหลากหลายของโลกใบนี้ ใครที่กำลังมองหาทริปพิเศษ มีทั้งความผจญภัยและความโรแมนติก มีทั้งความสบายและความท้าทาย แคนาดาคือคำตอบ
สอบถามหรือจองทัวร์ LINE : @lovecanada หรือคลิกที่ลิ้งค์นี้ > https://lin.ee/ngoQmSm3
โทรสอบถาม 098-4987-5484 หรือ 093-581-9542